ชาวบ้าน รวมตัวกันมาที่วัด
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดโพธิ์สว่าง บ้านหนองนารี หมู่ 8 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ คณะกรรมการวัดโพธิ์สว่าง พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนประมาณ 40 คน ได้ประชุมหารือกันในเรื่องที่จะติดตามทวงถามถึงทรัพย์สินเงินทองของวัด กรณีที่พระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม อายุ 37 ปี เจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่าง ได้หายไปจากวัดได้ประมาณ 1 เดือน แต่ก่อนหน้านั้น พระมหาจักรพงษ์ ได้ไปๆ มาๆ หายไปหลายวัน โดยชาวบ้านทราบเพียงว่า พระมหาจักรพงษ์ มีความใกล้ชิดสนิทสนม กับสีกา คนหนึ่งในหมู่บ้าน ซึ่งไปเปิดร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ด้วยกัน
โดยทรัพย์สินเงินทองของวัดที่เคยมีคนทำบุญทอดผ้าป่าจำนวน ล้านกว่าบาท ตอนนี้ชาวบ้านยังไม่ทราบว่า อยู่ที่ไหน การรวมตัวเพื่อหารือในวันนี้ มีนางบุญล้ำ อันถวา อายุ 60 ปี แม่ของพระมหาจักรพงษ์ และทนายความมาร่วมฟังด้วย โดยชาวบ้านต้องการให้พระมหาจักรพงษ์ มาชี้แจงถึงเรื่องที่มาที่ไปของเงินวัด ทางคณะกรรมการวัดจึงได้นัดให้นางบุญล้ำ พาพระมหาจักรพงษ์ ซึ่งทราบว่า ได้ลาสิกขาเป็นฆราวาสแล้ว มาพบด้วยแต่วันนี้ ก็ไม่เห็นมา โดยนางบุญล้ำยืนยันว่าจะพา ลูกชายมาชี้แจง ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 นี้
โดยทรัพย์สินเงินทองของวัดที่เคยมีคนทำบุญทอดผ้าป่าจำนวน ล้านกว่าบาท ตอนนี้ชาวบ้านยังไม่ทราบว่า อยู่ที่ไหน การรวมตัวเพื่อหารือในวันนี้ มีนางบุญล้ำ อันถวา อายุ 60 ปี แม่ของพระมหาจักรพงษ์ และทนายความมาร่วมฟังด้วย โดยชาวบ้านต้องการให้พระมหาจักรพงษ์ มาชี้แจงถึงเรื่องที่มาที่ไปของเงินวัด ทางคณะกรรมการวัดจึงได้นัดให้นางบุญล้ำ พาพระมหาจักรพงษ์ ซึ่งทราบว่า ได้ลาสิกขาเป็นฆราวาสแล้ว มาพบด้วยแต่วันนี้ ก็ไม่เห็นมา โดยนางบุญล้ำยืนยันว่าจะพา ลูกชายมาชี้แจง ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 นี้
ทางชาวบ้านต้องการอยากทราบถึงเอกสารสิทธิ์ของวัดที่เป็นโฉนด สมุดบัญชี ซึ่งทุกอย่างทั้งหมดคาดว่าอยู่กับอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งตอนนี้ท่านได้ลาสิกขาแล้ว ชาวบ้านต้องการทราบว่า เงินที่ได้ทำบุญทอดผ้าป่ามาตั้งแต่ปี 2561 - 2563 ผ่านมา มีเงินเข้าบัญชีไหม ถ้าไม่มีเงินเข้าบัญชี อดีตเจ้าอาวาสก็ต้องมาชี้แจงว่าเงินที่ได้มาอยู่ไหน นำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ถ้าไปซื้อวัสดุก่อสร้างมาทำอะไรในวัดก็จะต้องมีใบเสร็จให้ดูได้ นายจักรกฤษณ์ กล่าว
ด้านนางบุญล้ำ อันถวา แม่ของอดีตพระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม หรือนายจักรพงษ์ ทินวงศ์ เล่าว่า ตอนนี้ตนก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจบแล้ว พระท่านก็สึกแล้ว ที่ตนมาวันนี้ ก็เนื่องจากทางพี่น้องชาวบ้านมาดูทรัพย์สินที่อยู่ในกุฏิของเจ้าอาวาสที่เป็นของส่วนของลูกชายตน มาดูเป็นสักขีพยานในการตัดกุญแจเปิดประตูกุฏิ เพราะไม่มีลูกกุญแจ ก็อยากฝากผู้สื่อข่าวว่า เวลานี้ทุกอย่างจบแล้วไม่ควรจะไปออกข่าว เพราะจะทำให้หมู่บ้านเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง
ด้านชาวบ้านจากอำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่พระมหาจักรพงษ์ หรือนายจักรพงษ์ พร้อมด้วยสีกาคนสนิท ได้ไปเช่าที่ดินของตน เพื่อเปิดร้านขายอาหาร โดยฝ่ายหญิงเป็นเพื่อนกับลูกสาวตน ซึ่งทางผู้มาเปิดร้านจะทำร่วมหุ้นกับลูกสาวตน ก็เลยไม่คิดค่าเช่า เพราะเห็นว่าเป็นร้านของลูกสาว แต่พอทำไปลูกสาวไม่ได้ทำอะไรเลย เขาจะทำอะไรก็ทำกันเอง เพียง 2 คน ไม่มีการปรึกษาพูดคุยกับลูกสาวของตนเลย จึงมารู้ความจริงภายหลัง เมื่อชาวบ้านหนองนารี ได้เดินทางไปดูที่ร้านอาหารดังกล่าว และพบว่า มีโต๊ะเก้าอี้ ต่างๆ ที่ใช้ในร้านเป็นของวัด เกือบทั้งหมด ชาวบ้านจึงได้พากัน ขนกลับมาคืน ที่วัด ตนจึงทราบความจริง
ขอบคุณ แจ้งข่าวศรีสะเกษ