จากกรณีแม่เฒ่า 4 พี่น้อง ต้องเก็บข้าวของย้ายออกจากบ้าน หลานมาขอใช้โฉนดในการไปกู้เงินเพื่อไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน แต่ก็ถูกหลอกไม่มีเงินกลับมาใช้หนี้ จนกระทั่งบ้านและที่ดินถูกขายทอดตลาด ซึ่งหลังเป็นข่าวดัง ก็ได้มีผู้ใจบุญบริจาคเงินให้ยายกว่า 1.6 ล้านบาท เพื่อซื้อบ้านหลังดังกล่าวคืน แต่ทางเจ้าของใหม่ไม่ขายให้

ล่าสุด (26 มิ.ย. 64) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้เดินทางไปเจรจากับเจ้าของที่ใหม่ โดยการเจรจาเป็นแบบส่วนตัว ไม่มีสื่อหรือคนนอกเข้าไป โดยเจ้าของที่ใหม่ ได้ให้ลูกออกมาต้อนรับก่อนที่จะเข้าไปเจรจาในบ้าน รมว.ยุติธรรม ได้เปิดเผยกับอีจันว่า ตนและหน่วยงานได้ทำเต็มที่แล้ว การเข้าไปเจรจาครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก

เรื่องนี้ล้วนไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก โดยเจ้าของใหม่ให้เหตุผลว่า ยังไม่พร้อมขายตอนนี้ เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา ในการดำเนินการ ข้อมูลเอกสารและการดำเนินการอยู่ที่ขั้นตอนของกรมบังคับคดี แต่ตอนนี้ตนยังไม่พร้อมขายคืนให้จริงๆ รมว.ยุติธรรม บอกอีกว่า เราก็เข้าใจเข้า เรายื่นข้อเสนอให้เขาแล้ว ขอซื้อคืนในราคาที่สูงกว่าเดิม 2 เท่า ถ้าเงินบริจาคที่ยายมีไม่พอ ตนและหน่วยงานยินดีหามาเพิ่มให้ แต่เจ้าของที่ก็ยังไม่รับปาก พร้อมกับบอกอีกว่าเจ้าของที่ใหม่ก็เครียดและหนักใจไม่น้อย เพราะกระแสสังคมที่กดดันโจมตี บวกกับการตัดสินใจครั้งใหญ่นี้

หลังการเจรจา รมว.ยุติธรรม และหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ได้หารือเพื่อจะหาบ้านใหม่ให้ยาย ก่อนวันที่ 16 ก.ค. 64 นี้ ตามคำสั่งของศาล ที่ยายจะต้องย้ายออก ซึ่งตอนนี้ทาง นายลวง อนุเคราะห์ ลูกชายยายโปรย พี่สาวคนโตของ 4 ยาย ก็เผยว่า ตอนนี้ก็เตรียมหาที่เพื่อปลูกบ้านใหม่ หรืออาจจะไปหาบ้านเช่าในละแวกใกล้เคียง แต่ต้องแยกเป็น 2 ที่ โดยครอบครัวยายโปรยจะต้องอยู่อีกที่หนึ่ง ส่วนยายศรีนวล ยายแฉล้ม ยายตะล่อม 3 ยายต้องอยู่บ้านอีกหลัง เพื่อรอความหวังใหม่ว่าในอนาคต

เจ้าของที่ใหม่จะพร้อมขายที่คืนให้ ทุกอย่างอาจจะต้องใช้เวลาเตรียมการ เพราะที่ผ่านมาอาจจะมีการไม่เข้าใจ และความผิดพลาดทางด้านเอกสารกันเกิดขึ้น ซึ่งทุกหน่วยงานก็พร้อมที่จะหาทางออกให้ดีและเร็วที่สุด แต่ตอนนี้ ผลเจรจาเป็นแบบนี้ก็ต้องยอมรับ การดำเนินการทุกอย่างไม่ง่ายเลย