หนุ่มตามแม่กลับบ้าน
จากกรณีศักย์ศรณ์ นรินทร์นอก อายุ 26 ปี ร้องเรียนไปยังหมอปลา ว่านางเขมภัทร มิลลาร์ อายุ 43 ปี ผู้เป็นแม่ ได้ไปอยู่สถานปฏิบัติธรรมชื่อ วัดป่าโนนจำปา ต.สุ่มเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และไม่ยอมกลับบ้าน ซึ่งเจ้าตัวมีความเป็นห่วงว่าจะได้รับอันตรายนั้น
วันที่ 11 มิ.ย. 64 เจ้าหน้าที่กรมพระพุทธศาสนา, พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ, หมอปลา มือปราบสัมภเวสี, นายศักย์ศรณ์ นรินทร์นอก และน.ส.ชนิษณภา เกษตรเอี่ยม ลูกชายและลูกสะใภ้ที่ร้องเรียน ได้เดินทางมายังวัดป่าโนนจำปา ต.สุ่มเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมพระพุทธศาสนาได้ขอให้พระทักษิณ โชติโก วิเศษ หรือ หลวงปู่คำตา ชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
หลวงปู่คำตา กล่าวว่า อาตมาได้มาอยู่สร้างวัดนี้ได้ประมาณ 5 ปี เป็นที่ดินของญาติโยมที่อยู่ จ.อุดรธานี อาตมามองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างแม่และลูก ไม่เกี่ยวกับเรื่องเหล็กไหล ซึ่งเรื่องแม่ลูกนั้นก็ให้เขาไปคุยกันก่อน สำหรับเรื่องเหล็กไหล อาตมามองว่าเป็นเรื่องที่เกิดจริง เหล็กไหลที่อาตมาไปขุดมาเพื่อทำพิธีและนำมาเพื่อสร้างศาลยืนยันว่าไม่มีเรื่องเกี่ยวกับเรื่องปาฏิหาริย์ และเหล็กไหลนั้นก็ไม่เคยให้เช่าบูชา แต่อาตมาจะเอามาแจกให้ลูกศิษย์ ส่วนลูกศิษย์จะบูชาหรือทำบุญเท่าไรก็แล้วแต่เขา
และยืนยันว่าอาตเองไม่ได้บอกว่าสามารถพูดภาษาเทพได้ ขณะเดียวกัน หลวงปู่คำตาได้นำใบสุทธิและใบแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลสำนักสงฆ์มาแสดง พร้อมระบุว่าอาตมารู้สึกเสียใจที่ชาวบ้านกล่าวหาว่าอาตมาไม่ใช่พระ เพราะอาตมามีความตั้งใจที่จะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ที่ผ่านมาพยายามสร้างวัดด้วยตัวเองมาตลอด และยืนยันว่าอาตมาไม่ได้ลงทรง ส่วนเรื่องเหล็กไหลนั้น ก็แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล อาจจะไม่ใช่เหล็กไหลแต่เป็นก้อนหินที่มีธาตุกายสิทธิ์ดิน น้ำ ลม ไฟ มารวมตัวกัน แต่ยืนยันว่าไม่เคยสอนให้ลูกศิษย์งมงาย
นายศักย์ศรณ์ ผู้ร้องเรียน ได้เข้ามานั่งรวมวงการสนทนา และกล่าวว่าตนอยากให้แม่กลับบ้าน ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมแม่ถึงไม่ยอมกลับ รวมถึงแม่มีอาการเปลี่ยนไป เกรี้ยวกราดดุด่าตนว่า เ น ร คุณ และตนอยากรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับหลวงปู่คำตานั้นมีอะไรเกินเลยหรือไม่ ทำไมหลวงปู่คำตาต้องเดินทางไปต่างจังหวัดกับแม่ตนสองต่อสอง
ขณะเดียวกัน น.ส.ชนิษณภา ลูกสะใภ้ กล่าวว่า หลวงปู่คำตานั้นมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับความเป็นพระ เพราะมักจะเดินทางไปไหนสองต่อสองกับแม่ ย า ย ของตน จนทำให้คนติฉินนินทาว่าพระอาจจะอาบัติ ทำให้แฟนและตนตกเป็นทุกข์ เพราะแฟนตนต้องนอน ร้ อ ง ไห้ทุกวันที่ไม่สามารถพาแม่กลับบ้านได้ อีกทั้งหลวงปู่คำตามีพฤติกรรมทำตัวเป็น ร่ า ง ทรงพญานาค พูดภาษาเทพ และมักจะอ้างว่าลูกศิษย์สาว ๆ ที่เขามาหานั้น เป็นชายาหรือ เ มี ย ของพ่อปู่ศรีสุทโธ แม้ว่าหลวงปู่คำตาจะปฏิเสธ แต่ตนก็กล้าท้าสาบานเรื่องนี้ ถ้าใครพูดไม่จริงก็ขอให้มีอันเป็นไป
นางเขมภัทร ผู้เป็นแม่ มานั่งเพื่อปรับความเข้าใจกับลูกชาย อ้างว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำลูกชายถึงไม่ยอมมาพูดคุยกันก่อนที่จะไปร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ซึ่งตนไม่กลับบ้านเพราะมีเหตุผลส่วนตัว เพราะศรัทธาในตัวของหลวงปู่คำตา และการที่ได้อยู่ที่วัดโนนจำปานั้น ตนก็ได้ช่วยขุดดิน สร้างวัด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ส่วนเรื่องนี้ที่มีคนกล่าวว่าตนเดินทางไปกับหลวงปู่คำตาสองต่อสองนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะรถที่ใช้เดินทางนั้นเป็นของตน หลวงปู่ก็ต้องนั่งไปข้าง ๆ และทุกครั้งที่ไปต่างจังหวัดก็จะมีลูกศิษย์ลูกหานั่งในรถไปด้วย จึงยืนยันความบริสุทธิ์ได้ว่าตนไม่มีเรื่องชู้สาวแน่นอน
หลังจากนั้นนางเขมภัทร ได้จุดธูป 9 ดอก และสาบานต่อหน้าองค์พระมหาจักรพรรดิ์ กล่าวว่า ถ้าหากตนไปมีสัมพันธ์กับหลวงปู่คำตาจริง ก็ขอให้มีสิ่งไม่ดีเข้ามาในชีวิต แต่ถ้าหากตนไม่ได้มีสัมพันธ์กัน ตนก็ขอให้ผลสาบานไม่ย้อนไปหาคนที่กล่าวหา เพราะไม่อยากที่จะจองเวรจองกรรมต่อใคร
หลังจากกล่าวคำสาบานเสร็จ นายศักย์ศรณ์ก็ได้พนมมือไหว้ กล่าวขอขมากรรมต่อผู้เป็นแม่แล้วกราบลง แม่ก็เอามือลูบหัวลูกและกล่าวอวยพรให้บุญลูกชาย พร้อมกับกอดกันและร้องไห้
ด้านนางเขมภัทร มิลลาร์ อายุ 43 ปี เปิดเผยว่า ตนยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของหลวงปู่คำตา จะไม่มาพักอาศัยค้างคืนภายในวัด แต่ก็ยืนยันว่าจะมาทำบุญปฏิบัติธรรมเหมือนเดิม เพราะตนมีความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงปู่คำตา แต่ตนก็สงสัยว่าทำไมลูกชายถึงไม่ปรึกษากับแม่ก่อนว่าจะเอาอย่างไร เอาแต่โทรสั่งให้ตนกลับบ้าน ไม่ใช่พาสื่อมวลชนเข้ามาในวัดแบบนี้ ตนไม่โกรธลูก และยืนยันจะเดินทางกลับบ้าน ที่ผ่านมาตนก็อธิบายกับลูกมาตลอดว่าตนและหลวงปู่คำตาเป็นแค่ศิษย์กับอาจารย์ เพราะท่านเคยสอนให้ตนนั่งกัมมัฏฐานจนตนหายจากอาการไทรอยด์ที่คอโดยที่ไม่ต้องกินยา ตนยืนยันว่าตนไม่ได้มีความสัมพันธ์กับหลวงปู่คำตา
นายศักย์ศรณ์ นรินทร์นอก อายุ 26 ปี เปิดเผยว่า หลังจากที่แม่ได้สาบานว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์กับหลวงปู่คำตา ตนก็รู้สึกดีใจและสบายใจมากขึ้น เพราะตนไม่เคยสงสัยในตัวแม่เลย เพียงแต่สงสัยในพฤติกรรมของหลวงปู่คำตาที่มายุ่งกับแม่ของตน จนทำให้ชาวบ้านมาติฉินนินทา ซึ่งตนก็กลัวว่าแม่จะได้รับความเสียหาย เพราะก่อนหน้านี้เคยมีคนเห็นแม่ของตนนั่งสวดมนต์ในห้องเดียวกันกับที่พระนอนอยู่
หลังจากนั้น นางเขมภัทรก็เก็บของออกจากกุฏิ ตามคำสั่งของหลวงปู่คำตาที่สั่งห้ามไม่ให้นอนค้างคืนในวัดอีก และขับรถเดินทางไปยัง จ.ชัยภูมิ กับลูกชาย
หลวงปู่คำตา กล่าวว่า หลังจากนี้ขอสั่งห้ามนางเขมภัทรมาค้างคืนปฏิบัติธรรมที่วัดอีก เพื่อป้องกันข้อครหา แต่สามารถแวะเวียนมาทำบุญที่วัดได้ตามปกติ และอาตมาจะไม่เดินทางไปกับนางเขมภัทรอีก เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด และยืนยันว่าจะปรับเปลี่ยนคำสอนให้ยืดอยู่ในหลักพระรัตนตรัย
ขณะเดียวกันพระมหาไพรวัลย์บอกว่า อาตมาได้มีการพูดตกลงกับหลวงปู่คำตาแล้วว่า หลังจากนี้หลวงปู่คำตาจะปรับเปลี่ยนคำสอน และแนวทางการสอนลูกศิษย์ให้ตั้งอยู่ตามหลักพระพุทธศาสนา ยืนยันว่าจะไม่สั่งสอนให้มีการปราบไหว้บูชาเหล็กไหลอีก แต่จะเอาเหล็กไหลมาใช้ก่อสร้างเสา หิน และเทพื้นศาลา ให้ธาตุเหล่านี้อยู่ในศาสนสถาน ส่วนเรื่องที่มีร่างทรงมาบวงสรวงหรือประกอบพิธีกรรมใบ้ ห ว ย ภายในวัดนั้น ก็จะมีการห้ามปรามและยกเลิกทั้งหมด เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเกิดความงมงาย