นายสุทัศน์ วีสกุล ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศน์ทรัพยากรน้ำ (สสน.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบ “คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ” เปิดเผยถึงกรณีเกิดปรากฏการณ์อากาศร้อนมากผิดปกติในเดือนพ.ค.-ต้นมิ.ย. ทั้ง ๆ ที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่าประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว

ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.2564 ว่า เป็นเพราะเดือน เม.ย. นั้นมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตรงตามที่ สสน.คาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ต้นปีว่า ปีนี้ประเทศไทยจะมีฝนน้อยในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. แต่เดือนเมษายนจะมีฝนตกมากกว่าค่าปกติ นายสุทัศน์ กล่าวต่อว่า อีกทั้งจากการติดตามฝนที่ตกจริงในช่วงเดือนเม.ย. พบว่า ได้มีพายุฤดูร้อนเกิดต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ทำให้มีฝนตกตลอด และจากการที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในเดือนเม.ย.ทุกสัปดาห์นั้น ทำให้มีเมฆบังแสงอาทิตย์ และฝนตกสู่พื้นช่วยให้อุณหภูมิพื้นที่ต่ำ จึงไม่ทำให้อากาศร้อนมากนัก

“แต่เมื่อเข้าเดือนพ.ค. แม้จะมีการประกาศว่าเข้าสู่ฤดูฝน แต่เป็นการประกาศตามสภาพของลมและสภาพอุตุนิยมวิทยา แต่ฝนในเดือนพ.ค.นั้นน้อยกว่าฝนในเดือนเม.ย. ซึ่งสภาพฝนจะมีลักษณะ มาในช่วงสัปดาห์แรกในเดือนพ.ค. หลังจากนั้นฝนก็จะน้อยลง จนเข้าสู่ต้นเดือนมิ.ย. ฝนน้อยลงมาก ทำให้แสงอาทิตย์ส่องผ่านลงมาบนพื้นผิวดิน ความร้อนสะสมตัว ไม่ว่าบนพื้นถนน และตามอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ โดยเฉพาะในเมืองที่มีตึกสูงจำนวนมาก เช่น

กรุงเทพมหานคร ได้รับแสงอาทิตย์เต็มที่บวกกับกระแสลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่เป็นลมฤดูฝนพัดมาน้อยลง เป็นเหตุให้เดือนพ.ค.มาถึงต้นเดือนมิ.ย. ร้อนกว่าเดือนเม.ย. ที่เป็นฤดูร้อนมาก โดยพบว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอุณหภูมิเฉลี่ยช่วงเวลากลางวันจะอยู่ที่ 39-41องศาเซลเซียส แต่อุณหภูมิที่วัดจากกลางแดด หรือกลางแจ้งอาจจะสูงกว่านี้” นายสุทัศน์ กล่าว

นายสุทัศน์ กล่าวอีกว่า กดอากาศต่ำ ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ท้องฟ้ากลับมีเมฆน้อยมาก หรือบางพื้นที่ไม่มีเมฆมาบังแสงอาทิตย์เลย จึงยังคงทำให้มีอากาศร้อนอยู่ ที่น่าเป็นกังวลมากเวลานี้คือ เมื่อมีประกาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน เกษตรกรก็เริ่มเตรียมพื้นที่เพื่อปลูกพืชผล แต่ฝนตกลง อีกทั้งยังพบว่าเวลานี้ น้ำใน 4 เขื่อนหลักมีน้ำเหลืออยู่แค่ 1,600 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น เมื่อถามว่า ที่เป็นอยู่เช่นนี้ ถือว่าเป็นความผิดปกติแปรปรวนหรือไม่ นายสุทัศน์ กล่าวว่า อาจจะเป็นเพราะทุก ๆ ปีที่ผ่านมา เราพบว่าเดือนเม.ย.มีกาศร้อนมาก บวกกับฝนตกน้อย แต่มาปีนี้กลับตรงกันข้าม เมื่อเอามาเปรียบเทียบกันกับเดือนพ.ค.ก็รู้สึกว่าไม่เหมือนเดิม และร้อนมาก

อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วทุกประเทศทั่วโลกได้รับอิทธิพล การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศอยู่ โดยช่วงต้นปีได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ลานีญา ที่มีฝนเยอะ และต่อมาปรากฏการณ์ลานีญา ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นกลาง คือ ฝนค่อย ๆ น้อยลงและมีอากาศร้อน อย่างไรก็ตาม ต้นสัปดาห์หน้า จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเกิดขึ้นบริเวณประเทศเมียนมา และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ก็จะกลับมาพัดแรงขึ้น ทำให้หลายพื้นที่ ของประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตะวันตกมีฝนตกเพิ่มขึ้น ช่วยให้อุณหภูมิลดลงได้” ผู้อำนวยการ สสน. กล่าว

ขอบคุณ มติชน