จาก กรณี ลุงพล วืดประกันตัวรอบสอง ต้องนอนห้องขังต่ออีกคืน ยันหลับสบายดีมีกำลังใจจากแฟนคลับส่งของเยี่ยม ทนายตั้ม เตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวชั้นศาล ขอความเมตตาลูกความไม่มีพฤติการณ์หลบหนี มั่นใจแนวทางสู้คดีไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นลุงพลก่อเหตุ วิธีการตรวจหลักฐานนิติวิทย าศาสตร์เชื่อถือได้หรือไม่ ฉะตำรวจตั้งธงไว้ก่อนแล้วค่อยหาพย านหลักฐานยัดความผิด เหน็บ ผบ.ตร.แค่ออกหมายจับยังไม่ได้ปิดคดี ต้องรอถึงวันที่ศาลตัดสิน เตรียมยื่นเรื่องถึง ส.ส.สิระ ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ พร้อมจี้ให้ ผบ.ตร.เข้าชี้แจง กมธ.

หลังจากตำรวจจับกุมตัวนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล อายุ 44 ปี ตามหมายจับฐานความผิด 3 ข้อหา คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อนพบเป็นศพเปลือยอยู่ในป่าบนภูเหล็กไฟ ขณะจะเข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่งกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.กกตูม เบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ตำรวจไม่อนุญาตให้ประกันตัว ต้องสูญสิ้นอิสรภาพนอนห้องขังบนโรงพักเป็นคืนแรก

ความคืบหน้าที่ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 3 มิ.ย. นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ภรรยาของลุงพล พร้อมญาติ 2 คน นำข้าวกะเพราปลาหมึกไข่ดาว น้ำอัดลม แปรงสีฟัน เข้าเยี่ยมลุงพลที่ยังอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องขังบนชั้น 2 ของโรงพัก ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนและยูทูบเบอร์จำนวนมากที่มารอติดตามทำข่าวอยู่บริเวณด้านหน้าโรงพัก โดยที่ตำรวจนำแถบโปลิสไลน์สีเหลืองมาขึงกั้นโดยรอบ ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านในเด็ดขาด

หลังจากป้าแต๋นเข้าเยี่ยมลุงพลแล้วเดินลงมากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนนี้ตนนอนหลับสบายดีและลุงพลก็หลับสบายดี ไม่ได้มีความกังวลใจหรือเครียดอะไร หลังจากนี้ก็ปล่อยให้ทนายความดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ยืนยันว่าเราบริสุทธิ์ มีหลักฐานเตรียมต่อสู้ทุกอย่างตามข้อหาที่ตำรวจแจ้งมา ส่วนเรื่องยื่นประกันตัวลุงพลได้ให้ทนายความดำเนินการ ทั้งเตรียมหลักฐานต่างๆ รวมทั้งเงินสดไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีที่แม่น้องชมพู่ยื่นคัดค้านการประกันตัวต่อศาลก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เราพร้อมสู้เต็มที่

นอกจากนี้ ป้าแต๋นยังชี้แจงถึงกรณีโทรศัพท์มือถือ 2 ซิมว่า ไม่ได้โทรศัพท์ไปบอกลุงพลว่าน้องชมพู่หายตัวไป เพราะที่บ้านมีโทรศัพท์เพียงแค่เครื่องเดียวเท่านั้น และลุงพลทราบว่าน้องชมพู่หายตัวไปจากตอนที่เจอป้าแต๋นที่หน้าบ้านป้าถอน ส่วนหลักฐานที่พบเส้นผมหรือเส้นขนของน้องชมพู่ตกอยู่ในรถลุงพลนั้น ก็เป็นไปตามปกติที่น้องชมพู่เคยขึ้นรถลุงพลกับป้าแต๋นบ่อยครั้ง ก็ไม่รู้ว่าขนและเส้นผมต่างๆของน้องชมพู่ตกอยู่ในรถเมื่อเวลาใด แต่ในวันที่เจ้าหน้าที่มาตรวจค้นหาหลักฐานในรถช่วงนั้น พวกตนไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้นทันทีและนำเอกสารมาให้เซ็น ไม่ได้เป็นหมายค้นหรือแจ้งมาก่อนล่วงหน้า ตรงจุดนี้ไม่รู้ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ ทุกอย่างมอบหมายให้ทนายความดำเนินการตามกฎหมายและเชื่อมั่นในตัวทนายตั้ม

ต่อมาเวลา 11.30 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความของลุงพล เดินทางด้วยรถตู้สีดำมาถึง สภ.กกตูม จากนั้นเปิดเผยว่า วันนี้ต้องมาพิจารณากันเรื่องข้อกล่าวหาของตำรวจ ทั้งเรื่องดีเอ็นเอที่การให้ข่าวของตำรวจกำกวมทำให้สังคมสับสนเข้าใจว่าเป็นดีเอ็นเอของลุงพลหรือไม่ หรือเกี่ยวข้องกับลุงพลอย่างไร ความจริงน่าจะระบุไปเลยว่าเป็นดีเอ็นเอของป้าแต๋น ซึ่งในตอนที่มีการตรวจดีเอ็นเอจากเส้นผม 3 เส้น ผลตรวจไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นของใคร แต่ระบุได้แค่เพียงว่ามีความเกี่ยวพันไปทางญาติของแม่ ก็มีเพียงป้าแต๋น แม่น้องชมพู่และยายเท่านั้น ขั้นตอนต่อไปตำรวจต้องมาตอบสังคมว่าทำไมถึงระบุว่าเป็นของป้าแต๋น ใช้วิธีการตรวจแบบไหนและเชื่อถือได้หรือไม่

ล่าสุดวันนี้ ตำรวจนำส่งตัว นายไชย์พล ฝากขังต่อที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร