ระทึก ออกหมายจับคดีน้องชมพู่

ระทึก ออกหมายจับคดีน้องชมพู่

กรณีคดีน้องชมพู่วัย 3 ขวบ ชาวบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ได้หายตัวจากบ้าน และพบเป็นศพบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพักกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ขณะนี้ระยะเวลาผ่านมาแล้ว 1 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถจับตัวใครมาดำเนินคดีได้

ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดวันที่ 30 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว ได้มาพูดคุยกับนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนยังมีความหวังเหมือนเดิมทุกครั้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับคนร้ายได้ แต่ครั้งนี้ตนค่อนข้างมีความหวังกว่าทุก ๆ ครั้ง เนื่องจากระยะหลังทาง ผบ.ตร. ท่านเริ่มออกมาพูดถึงคดีของน้องชมพู่มากขึ้น ตนก็ลุ้นว่าคดีจะออกมาอย่างไร และก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้คนอื่น ๆ ที่ติดตามคดีน้องชมพู่

กรณีที่มีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่พบหลักฐานที่จุดพบศพ เป็นเส้นขนจำนวน 3 เส้น ที่ตรวจดีเอ็นเอจนสามารถระบุได้แล้วว่าเป็นของใครนั้น ตนก็มีความคาดหวังกับหลักฐานชิ้นนี้มาก ๆ ทั้งนี้ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่คงไม่ใช้แค่หลักฐานเส้นขนอย่างเดียว ในการมัดตัวคนร้าย ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะมีหลักฐานมากกว่านั้น ในการจับใครสักคน "เวลาที่แม่ไม่สบายใจ จะเลือกเขียนระบายความรู้สึกลงในกระดาษ และทิ้งความรู้สึกไป โดยไม่เก็บเอามาใส่ใจอีก ไม่อยากให้ตัวเองจมปลักกับสิ่ง ๆ นั้น" แม่น้องชมพู่ กล่าว

สำหรับการใช้ชีวิตของตนช่วงนี้ก็โดนคุกคามน้อยลง แต่จะมีบางคอมเมนต์ที่เข้ามาเมนต์ไปในทางที่ไม่ดีเวลาตนไลฟ์สดขายผ้าบ้าง ซึ่งตนก็รู้สึกรับได้ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าตำรวจสามารถจับคนร้ายได้ เพราะ ผบ.ตร. ได้ออกมาพูดแล้วว่า คดีน้องชมพู่ต้องได้คำตอบที่สังคมพอใจ ตนเชื่อในการทำงานของตำรวจ คดีน้องชมพู่มีระยะเวลามากว่า 1 ปี แล้ว ตนไม่มีอะไรที่จะฝากถึงคนร้าย ถ้าใครที่เป็นคนร้ายตนอยากให้รับโทษอย่างสาสมที่ทำกับครอบครัวของตน

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจเตรียมจะออกหมายจับ 3 ข้อหาดังต่อไปนี้ 1.พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาฯ 2.หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย จนถึงแก่ความตาย 3.ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายทำลายศพฯ ทีมข่าวได้รับบันทึกของแม่น้องชมพู่ ซึ่งเขียนด้วยลายมือ พบว่าบันทึกดังกล่าวมีทั้งหมด 4 หน้า

หน้าที่ 1 มีใจความว่า "ข้าพเจ้านางสาวิตรี วงศ์ศรีชา หรือแม่น้องชมพู่ ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งลูกสาวคนเล็กถูกพรากจากอกไป จากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นเวลา 4 เดือนเต็ม ที่ไม่ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ของน้อง ที่ดังมาจากบนบ้าน แม่จ๋า ขึ้นเทิง ขึ้นเทิง (ลูกเรียกแม่ขึ้นบนบ้าน) มานอนนำน้อง ไม่ได้ยินเสียงมานานแล้ว ยังคิดถึงลูกเสมอ

หน้าที่ 2 มีข้อความว่า "ไม่มีรักไหนยิ่งใหญ่เท่ารักจากพ่อแม่ ไม่มีรักใดมั่นคงเท่าสายเลือด ไม่มีรักใดไม่ใช้เวลา 3 ปีที่ร่วมทางกันมา มันมีค่าเกินกว่าจะบอกใคร

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

หน้าที่ 3 มีข้อความว่า ฝากไปให้แม่ ไม่รู้ลูกได้รับหรือป่าว ฝากไปให้เพื่อผ่อนคลายความโศกเศร้า ฝากไปให้แทนความรักในใจเรา

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

หน้าที่ 4 มีข้อความว่า 10 ก.ย.63 ใกล้สิ้นสุดแล้วจริงหรือ ข้าพเจ้าขอภาวนาให้สิ่งที่ได้รับรู้ในวันนี้เป็นความจริงด้วยเถิด อยากพ่นจากความทุกข์นี้เสียที วิกฤตชีวิตครั้งหนึ่งหนักหนายิ่งหนัก มีเพียงคำสอนหลักพระพุทธศาสนา ที่พอพยุงสติข้าพเจ้าให้มีสมาธิ และความอดทน

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ข้าพเจ้าสัญญากับหัวใจตัวเองแล้วว่า ไม่ว่าไอ้__นรกคนใดก็ตาม ที่มันบังอาจทำให้ลูกสาวตัวน้อยของข้าพเจ้า มีแม้เพียงรอยขีดข่วน ข้าพเจ้าไม่มีวันจะอโหสิกรรมให้เด็ดขาด ซ้ำยังขอสาปแช่งให้ได้รับเคราะห์กรรม ถูกเจ้ากรรมนายเวรตามล่าอาฆาต เอาชีวิตทุกภพทุกชาติไป

นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา กล่าวว่า ก่อนอื่นตนต้องขอยกมือขึ้นเหนือหัว ขอบคุณ ผบ.ตร. ที่จะทำให้คดีของน้องชมพู่ได้รับความเป็นธรรม และเป็นไปในทิศทางที่สังคมจับตามอง แม้ว่าหวยจะไปออกที่ใคร ตนก็เชื่อว่าต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชมพู่ เพราะคดีนี้ต้องมีคนร้าย ตนเชื่อว่าน้องชมพู่ขึ้นไปตายเองไม่ได้ ตนไปที่หมู่บ้านกกกอกและขึ้นไปยังจุดพบศพของน้องชมพู่ ดังนั้นเด็กวัยเพียงแค่ 3 ขวบ ปีนขึ้นไปตายเองไม่ได้แน่นอน ที่สำคัญคดีนี้ ต้องมีการออกหมายจับหรือจับคนร้ายให้ได้

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

เพราะถ้า ผบ.ตร. แถลงข่าวเหมือนครั้งก่อน พูดกว้าง ๆ ไม่ลงรายละเอียด หรือไม่มีการออกหมายจับใคร ตนก็จะไม่เดินทางไปรับฟังการแถลงข่าว แต่ถ้าออกหมายจับแน่นอนและชัดเจนตนก็พร้อมที่จะเดินทางไปฟังอีกครั้ง และหากปิดคดีปิดด้วยเรื่องไสยศาสตร์มนตร์ดำ ตนมองว่าก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ตนไม่ขอพาดพิงว่าเป็นใคร ดังนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามความคืบหน้าของตำรวจ และเชื่อว่าคดีนี้ต้องจับคนร้ายได้ ส่วนที่สังคมจับตามองว่า ตนเคยอยู่เคียงข้างคนบางคน และกำลังกลืนน้ำลายตัวเอง ก็ขอยืนยันอีกครั้งตนไม่เคยกลืนน้ำลาย แต่ถุยน้ำลายทิ้งเมื่อเดือนธ.ค.63 แล้ว ฉะนั้นก็ไม่ขอยุ่งเกี่ยวหรือไม่พูดถึงดีกว่า และหากหมายจับออกไปที่บุคคลที่เคยอยู่เคียงข้างก่อนหน้านี้ ตนก็จะนำโฉนดที่ดินทั้งหมดที่เคยโชว์ออกสื่อไปขาย แล้วจะนำเงินมาสร้างบ้าน

สำหรับบุคคลที่เข้าเครื่องจับเท็จในคดีน้องชมพู่ ได้แก่ นายอนามัย นางสาวิตรี นางจุไรภรณ์ นายเสริม นายนรินทร์ น.ส.สายฝน นายไชย์พล ครูบารัตน์ พระบุญมา นางส้มโอ นางดอน ด.ช.ก๊วยเจ๋ง และพ่อแบม

ขณะที่ไทม์ไลน์ของนายไชย์พล หรือ ลุงพลนั้น ได้ปรับเปลี่ยนไปจากเวลาเดิม เมื่อป้าถอนออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ขอยืนยันเวลาเดิม ดังนั้นจึงทำให้ไทม์ไลน์ที่ยังเป็นช่องว่างลุงพล มีเวลาเพิ่มมากขึ้น จำนวน 1 ชั่วโมง

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

คลิป

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ