เตย ท้องทิพย์

เตย ท้องทิพย์

กรณีน.ส.กรกนก เพิ่มหิรัญ หรือ เตย อายุ 21 ปี เดินทางเข้าแจ้งความ ที่สภ.เมืองสุพรรณบุรี อ้างว่าหลังจากคลอดลูกฝาแฝดชายหญิง ที่รพ.บางปลาม้า แฝดชายมีน้ำหนักตัวน้อยจึงส่งถูกส่งตัวมารักษาที่ รพ.เจ้าพระยายมราช แต่ได้เสียชีวิตจึงรับศพนำไปประกอบพิธีที่วัด กระทั่งทั้ง 2 โรงพยาบาลสืบหาข้อเท็จจริงไปพบว่า น.ส.กรกนก ให้ข้อมูลกับตำรวจเป็นเท็จทั้งหมด ก่อนที่น.ส.กรกนก จะออกมายอมรับว่ากุเรื่องและกล่าวขอโทษสังคม ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ล่าสุดวันที่ 25 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ในเวลาประมาณ 14.00 น. นายอัฐพล สุนทรวิภาต นิติกร รพ.เจ้าพระยายมราช ได้นำเอกสารหลักฐาน ทั้ง CD และข้อความแสดงความคิดเห็น เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองสุพรรณบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับ 8 บุคคล ในฐานความผิดดูหมิ่นทำให้โรงพยาบาลได้รับความเสียหาย

นายอัฐพล สุนทรวิภาต นิติกร รพ.เจ้าพระยายมราช เปิดเผยว่า วันนี้ตนเป็นตัวแทนได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับ 8 บุคคลที่ดูหมิ่นทำให้โรงพยาบาลได้รับความเสียหาย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มแรก คือ นายเกรียงไกร สุภีทรัพย์ และน.ส.กรกนก เพิ่มหิรัญ สองสามีภรรยา โดยแจ้งความในความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นตามมาตรา 14 (1) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328 ความผิดฐานแจ้งความอันเป็นเท็จ

นอกจากนี้ยังแจ้งความ บุคคลอื่นอีก 6 คนที่ไลฟ์สด และเข้าไปแสดงความคิดเห็นดูหมิ่นและทำให้โรงพยาบาลเสียหาย ซึ่งในจำนวนนี้รวมน้องชายของเจ้าของโรงงานที่นายเกรียงไกรทำงานอยู่ด้วย ซึ่งเป็นผู้ไลฟ์สดในวันที่สามีภรรยามาที่โรงพยาบาล แต่ต่อมาได้ลบไลฟ์สดดังกล่าวแล้ว โดยแจ้งความในข้อหา นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นตามมาตรา 14 (1) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

การแจ้งความครั้งนี้ เป็นการแจ้งความในคดีอาญา ยังไม่ได้มีการเรียกค่าเสียหาย แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการยอมความอย่างเด็ดขาด เนื่องจากการกระทำของสามีภรรยาคู่ดังกล่าวทำให้โรงพยาบาลได้รับความเสื่อมเสีย รวมถึงกระทบระบบสาธารณสุขของจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนกรณีที่นายเกรียงไกร ออกมาระบุว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของภรรยานั้น ก็ให้ไปต่อสู้และพิสูจน์ในชั้นศาล ส่วนการออกมาแถลงของทั้ง 2 คนไม่มีผลกับการแจ้งความ เพราะถือว่าการกระทำผิดได้เกิดขึ้นแล้ว

สำหรับเรื่องที่ น.ส.กรกนก อ้างว่าโรงพยาบาลได้รับเลี้ยงดูลูกแฝดหญิงอีกคน ซึ่งในตอนแรก น.ส.กรกนก มีท่าทีว่าจะเรียกค่าเสียหาย ทางโรงพยาบาลมีหลักฐานทั้งกล้องวงจรปิด และยังมั่นใจในความจริงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ในตอนแรกคู่สามีภรรยาได้นัดหมายว่าจะเข้ามาขอโทษ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เข้ามา เพราะติดภารกิจที่จะต้องไปออกรายการ อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากจะฝากถึงประชาชนว่า ขอให้มีสติก่อนที่จะแชร์ข้อมูล หรือแสดงความคิดเห็น

ในวันนี้ ตำรวจชุดที่สอบปากคำ ได้เรียกนายเกรียงไกร สุภีทรัพย์ และน.ส.กรกนก เพิ่มหิรัญ คู่สามีภรรยาเดินทางเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ตั้งแต่เวลา 15.30 น. จนถึงเวลาประมาณ 20.00 น. ก็ยังสอบปากคำไม่แล้วเสร็จ ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายเกรียงไกร สุภีทรัพย์ เปิดเผยว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ฝ่ายหญิงกุเรื่องขึ้นมา ในวันนี้เป็นวันครบรอบ 1 ปีที่ตนคบกัน แต่ความสัมพันธ์ในตอนนี้ยืนยันว่า เลิกกันแล้ว และเลิกกันจริง ๆ ไม่ได้เลิกทิพย์ เพราะทางครอบครัวของตนกดดัน และต้องการจะให้เลิกข้องเกี่ยวกัน หลังจากนี้ตนไม่ทราบว่าจะกลับมาคืนดีกันอีกหรือไม่ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ตอบไม่ได้

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

โดยขณะนี้ตนได้แยกกันอยู่ แต่ยังคงพูดคุยกันเรื่องคดีความเท่านั้น ส่วนเรื่องเงินที่จะนำมาใช้สู้คดี ยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้น สำหรับเรื่องที่จะไปขอโทษโรงพยาบาล ตนตั้งใจว่าจะไปขอโทษแน่นอน แต่ต้องรอทางนายจ้างประสานไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ส่วนเรื่องของน้ำนมตนยังไม่ขอพูดถึง เพราะอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวน ความรู้สึกขณะนี้รู้สึกเครียดมาก ต้องยอมรับความจริง

ทีมข่าวตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊กของนายเอกสิทธิ์ ศิริพรรณาภิรัตน์ น้องชายของเจ้าของโรงงาน ที่นายเกรียงไกร ไปทำงานเป็นลูกจ้าง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า "ขอโทษนะครับ ที่ผมไลฟ์สดไปเมื่อคืน เพราะสถานการณ์และสังคมรอบข้างพาไป และผมเชื่อแบบนั้นว่าลูกเขาหายจริง ๆ เลยเกิดการไลฟ์สดแบบนั้นขึ้น"

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ด้านนายเกรียงไกร โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า "ไม่ได้มาเจอแบบผม ไม่รู้หรอก ก็พูดกันไป...สึ..." พร้อมกับอีโมติคอนรูปหน้าโกรธ

นอกจากนี้ น.ส.กรกนก ได้ไปออกรายการโหนกระแส พร้อมกับกล่าวว่า "หนูอยากขอโทษทุก ๆ คนนะคะ ที่ทำให้เดือดร้อน วุ่นวาย ขอโทษทางโรงพยาบาล ทั้ง 2 แห่ง หนูไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ ขอโทษทุก ๆ คน ทั้งรายการ นักข่าว ที่ทำให้เป็นแบบนี้ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ"

กรณีที่สังคมคิดว่า พ่อของตนมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าพ่อของคนรู้เห็นจริง ๆ จะไปแจ้งความทำไม และจะปล่อยให้เจ้านายตัวเองไปไลฟ์สดจนเสียชื่อเสียงทำไม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนรู้สึกโกรธ และไม่ขอพูดคุยกับน.ส.เตย อีกทั้งตนยังรู้สึกเสียใจ ถ้าวันนั้นตนเอะใจตั้งแต่แรก ตนคงจะบอกกับทั้งคู่ว่าไม่ต้องไปแจ้งความ และคิดว่าถ้าสารภาพก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊กของ นายเกรียงไกร สุภีทรัพย์ และน.ส.กรกนก เพิ่มหิรัญ สองสามีภรรยา ปรากฏว่าล่าสุดวันนี้ (25 พ.ค.64) ทั้งคู่เปลี่ยนสถานะเป็นโสดเรียบร้อยแล้ว ตามที่นายเกรียงไกร ให้สัมภาษณ์ในวันแถลงข่าวว่า นับต่อจากนี้ไปจะขอยุติความสัมพันธ์กับฝ่ายหญิง และจะพูดคุยกันในเรื่องของคดีความเท่านั้น

น.ส.กรกนก กล่าวยอมรับว่า ตนเป็นคนแต่งเรื่องขึ้นมาทั้งหมด และทำเพียงคนเดียว โดยสามีและคนรอบข้างไม่ได้รู้เห็นด้วย แต่ยืนยันว่าตนเคย ตรวจพบว่าตั้งครรภ์จริงเมื่อเดือนต.ค.63 ด้วยการซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ 1 รอบ ซึ่งผลออกมาว่าขึ้น 2 ขีดแปลว่าตั้งครรภ์ ขณะนั้นตนยังไม่ได้ไปฝากครรภ์ แต่ต่อมาเดือนก.พ.64 ตนแท้งหลังจากมีเพศสัมพันธ์กับสามีแล้วมีก้อนเลือดหลุดออกมา 2 ก้อน จึงคิดว่าท้องลูกแฝด ส่วนลักษณะก้อนเลือดที่เห็นยังไม่มีลักษณะของการเป็นเด็กทารกหรือมีแขนขาอวัยวะ ด้วยความตกใจ จึงราดน้ำทิ้ง ซึ่งหลังจากที่แท้งลูกไม่ได้ไปพบแพทย์ เพื่อขูดมดลูกหรือตรวจร่างกาย เนื่องจากกลัวว่าสามีจะรู้ความจริง และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยไม่กล้าบอกความจริงกับสามี เนื่องจากสามีอยากมีลูกมาก ๆ กลัวว่าหากบอกความจริง สามีจะเสียใจและทิ้งตนไป

เมื่อถอดคำพูดของ น.ส.กรกนกตั้งแต่เดือน ต.ค.63 อ้างว่าตั้งครรภ์ ต่อมาวันที่ 18 ก.พ.64 อ้างว่ามีก้อนเลือด 2 ก้อนหยุดออกมาหลังมีเพศสัมพันธ์กับสามี จึงเชื้อว่าแท้งลูกแฝด หลังจากนั้นวันที่ 20 พ.ค.64 เปิดโลงไม่พบศพเด็ก กระทั่งวันที่ 22 พ.ค.64 ยอมรับสารภาพว่ากุเรื่องทั้งหมดขึ้นมา เพราะกลัวว่าสามีจะไม่รัก

นายแพทย์ประจำคลินิก ที่น.ส.กรกนก อ้างว่าไปฝากครรภ์ ให้ข้อมูลว่า หญิงสาวที่ท้อง 5 เดือนจะมีน้ำนมหรือไม่ ปริมาณน้ำนมจะขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนว่ามากน้อยแค่ไหน

การตั้งครรภ์มี 2 แบบ คือ ท้องลม หมายถึง การตั้งครรภ์ที่ไม่สมบูรณ์ตั้งแต่แรก มีแต่ถุง และท้องแบบมีตัว คือ การตั้งครรภ์ปกติ ที่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น หากเกิดการแท้ง ท้องลม ถ้าแท้งแล้วออกมาเป็นก้อนเลือด จะไม่ออกมาเป็นตัว เพราะไม่มีตัวเด็กตั้งแต่แรก แต่ถ้าเป็นการท้องแบบมีตัว จะออกมาเป็นตัว ซึ่งหากท้องได้ 5 เดือนจะเห็นเป็นรูปร่างเด็ก มีแขนขา โดยการท้องแบบตัว หากตั้งครรภ์ 5 สัปดาห์ ขนาดเท่าจุดทศนิยม ตั้งครรภ์ 7 สัปดาห์ ขนาดเท่ากับเม็ดข้าวสาร ตั้งครรภ์ 9 สัปดาห์ขนาดเท่ากับไส้กรอก และหากตั้งครรภ์ 16 สัปดาห์ขนาดจะเท่ากับไส้กรอกอีสาน แต่กรณีที่น.ส.เตย บอกว่าแท้งออกมาเป็นก้อนเลือด คือ การท้องลม

ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านพักของญาติพี่น้องน.ส.เตย ใน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ซึ่งพ่อแม่ของน.ส.เตยไปทำงาน พบเพียว น.ส.ตอง อายุ 17 ปี น้องสาวของน.ส.เตย ที่เป็นคนดูแลหลานชายวัย 4 ปีให้พี่สาว เปิดเผยว่า ตนยังเชื่อว่าพี่สาวท้องจริง ๆ เพราะตนเคยจับท้อง แต่ไม่รู้ว่าแท้งตอนไหน ส่วนเรื่องที่บอกว่าป่วย ตนเพิ่งจะมาทราบตอนที่แถลงข่าว โดยหลังเกิดเรื่องตนยังไม่ได้คุยกัน และทราบจากที่แถลงข่าวว่าทั้งคู่ได้เลิกกันแล้ว ซึ่งหลังจากนี้พี่สาวคงจะกลับมาอยู่ที่บ้าน ส่วนพ่อแม่ของคน รู้สึกเครียด และเป็นห่วงน.ส.เตย เกรงว่าจะคิดสั้น ส่วนตนเป็นคนเลี้ยงลูกชายของน.ส.เตย เพราะเขาไปทำงาน จนถึงตอนนี้ตนยังไม่รู้ว่าโกหกไปเพื่ออะไร แต่คงจะเป็นเพราะความรัก เรื่องคดีความตนยังไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร และเรื่องของการขอโทษขอให้เป็นหน้าที่ของพี่สาว ตนยอมรับว่ารู้สึกโกรธพี่สาว แต่ก็พร้อมที่จะให้อภัย

ทีมข่าวเดินทางมาที่ ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของน.ส.พลอย (สงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 19 ปี ลูกเลี้ยงของนายนัท เปิดเผยว่า ญาติฝั่งของตนเคยแตะท้องของน.ส.เตยและพบว่าหนังท้องมีลักษณะตึง ๆ แต่ตนก็รู้สึกสงสัยว่าทำไมท้องถึงไม่โต ทั้งที่บอกว่าเป็นลูกแฝด แต่เวลาที่น.ส.เตย จะไปไหนมาไหนจะใส่ชุดคลุมท้องตลอด ตนเลยไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร กระทั่งหลังจากคลอดลูกแฝด น.ส.เตยได้โพสต์ว่า "น้องจะไม่อยู่แล้ว" ตนเลยถามน้องเป็นอะไร ซึ่งน.ส.เตย บอกว่า "น้องติดเชื้อ" อีกทั้งพ่อของตนยังเอารูปที่อยู่ในตู้อบมาให้ดู ซึ่งเป็นรูปที่เคยไปออกรายการโหนกระแส ขณะนี้พ่อของตนรู้สึกเครียดมาก และวานนี้หลังแถลงข่าว น.ส.เตย ได้ส่งข้อความไปสอบถามว่า "ทำอะไร" พ่อของตนก็บอกว่า "นอนแล้ว ยังไม่อยากจะคุยกับใคร"

ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้คุยกับพ่อ แต่ทราบเรื่องราวข่าวว่ามีการประกาศยุติความสัมพันธ์ และวันนี้เป็นวันครบรอบคบกัน 1 ปี แต่เลิกกันก่อนวันครบรอบพอดี หลังจากวันนี้ทั้งคู่จะไม่อยู่ด้วยกันแล้ว ตนจึงคิดว่าพ่ออยู่คนเดียวดีแล้ว ตนเชื่อว่าพ่อกับน.ส.เตย ยังคงจะยังรักกันอยู่ แต่จำเป็นที่จะต้องยุติความสัมพันธ์ เพราะน.ส.เตย สามารถสร้างเรื่องหลอกทุกคนได้อีก ส่วนเรื่องครอบครัวของน.ส.เตย กังวลว่าจะคิดสั้น ตนเชื่อว่าถ้าคิดสั้นจริง ๆ คงจะทำตั้งแต่ตอนที่ลูกแท้งแล้ว และสภาพที่พ่อของตนเจอในตอนนี้ น่าจะมีโอกาสคิดสั้นมากกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลักษณะคล้าย ๆ กันคือภรรยาโกหกว่าท้อง แล้วฝ่ายผู้ชายผู้คอตาย ส่วนตัวรู้สึกเป็นกังวล และพยายามให้กำลังใจพ่อ แต่ตนเชื่อว่าพ่อคงจะไม่ทำเพราะพ่อเป็นคนมีเหตุผล นอกจากนี้ พ่อน่าจะเจอน.ส.เตย และคุยกันผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนจะตัดสินใจคบหากัน เพราะพ่ออยากมีลูกมาก ๆ เนื่องจากอายุมากแล้ว ซึ่งตอนที่คบกันก็บอกกับน.ส.เตยตลอด และตั้งแต่พ่อรู้ว่าน.ส.เตย ตั้งท้องลูกแฝด พ่อของตนก็ไม่ให้น.ส.เตยไปทำงาน เนื่องจากน.ส.เตย แสดงท่าทางเหมือนคนไม่ค่อยแข็งแรง ชอบบ่นว่าปวดท้องเสมอ ๆ

คลิป

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ