ความคืบหน้ากรณีสองสามีภรรยาออกมาระบุว่า ท้องและได้ลูกฝาแฝด พาไปฝากครรภ์เรียบร้อย ในวันที่ฝ่ายภรรยาไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลบางปลาม้า มีการผ่าคลอด ต่อมาพบว่าเด็กชายไม่แข็งแรงต้องเข้าตู้อบ ทำให้ต้องส่งตัวไปเข้าตู้อบที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ก่อนจะมีการโทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกชายเสียชีวิตแล้วให้ไปรับศพ เมื่อจะนำศพไปทำพิธี ปรากฏว่าศพไม่มี หนำซ้ำแฝดหญิงที่อยู่โรงพยาบาลก็หายตัวไป ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (22 พ.ค.)

หลังจากจบสัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 ด้าน หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรของรายการ ได้พา นายเกรียงไกร หรือ นัด อายุ 30 ปี และ น.ส.กรกนก หรือ เตย อายุ 22 ปี สองผัวเมียไปตรวจภายในกับ นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์ หัวหน้าแผนกสูตินรีแพทย์เวชกรรม โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ภายใต้ความยินยอมของทั้ง 2 คน และยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อ

นพ.อานนท์ เปิดเผยผลตรวจภายใน พบมีดังนี้

1.ไม่มีรอยการเย็บ ไม่มีรอยแผล

2.เห็นเลือด แต่อาจจะเป็นประจำเดือน ก็เป็นไปได้

3.ปากมดลูกปิด ไม่เหมือนกับเพิ่งคลอดมา มดลูกไม่โต ปกติยาว 7.5 ซม. แต่วัดได้ 7.2 ซม. ถือว่าปกติ

4.จากการอัลตราซาวด์ โพรงมดลูกแฟบ ไม่มีเศษอะไรหลงเหลืออยู่ ไม่เหมือนการคลอดลูกมา

นอกจากนี้ ผลการตรวจเลือดเพื่อหาค่าโปรแลคติน พบว่า ค่าโปรแลคติน เท่ากับ 10 คือ เท่ากับคนปกติ ไม่มีน้ำนม เพราะถ้าคนมีน้ำนม ค่าโปรแลคติน จะต้องสูงถึงระดับ 100

ขณะที่สองผัวเมียยังยืนยันว่า ฝ่ายหญิงตั้งท้องและคลอดลูกจริง จะขอไปตรวจอีกรอบแบบที่ไม่บอกใคร และถ้า รพ.บางปลาม้า และ รพ.เจ้าพระยายมราช จะแจ้งความเอาผิด ก็ขอให้เป็นเรื่องในอนาคต

โรงพยาบาลตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยืนยัน "ไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน" ขณะที่ทางด้าน นายแพทย์ พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี , นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมทีมแพทย์ พยาบาล ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีดังกล่าว

ซึ่งทางโรงพยาบาลยืนยันว่า หากมีการย้ายคนไข้ หรือเปลี่ยนโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลต้นทาง คือโรงพยาบาลบางปลาม้า จะต้องมีเอกสารพร้อมส่งข้อมูลมายังโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช เพราะถือเป็นระบบมาตรฐานของโรงพยาบาลทั้งประเทศ และต้องประสานพูดคุย ร่วมกันวินิจฉัย

ก่อนอนุญาตนำคนไข้เข้ารักษา แต่หากกรณีที่เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน เช่นกรณีนี้เป็นลูกแฝดฉุกเฉิน จะต้องเป็นรถของโรงพยาบาลนำส่งเท่านั้น และจะมีการบันทึกในเวชระเบียนทุกครั้ง แต่กรณีนี้ไม่มีหลักฐานทางเวชระเบียน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาล ไม่พบหญิงดังกล่าว มาที่ห้องกุมารเวชในช่วงเวลาที่กล่าวอ้าง แม้จะมีภาพหญิงคนนี้ถือของเดินขึ้นรถกระบะ สีเทาจริง แต่ไม่ได้มารับศพ เพราะการรับศพต้องไปรับที่ห้องปลายฟ้า

ซึ่งอยู่ชั้น 1 ไม่ใช่ที่ห้องกุมารเวช และเมื่อตรวจสอบไปที่โรงพยาบาลบางปลาม้า พบว่า น.ส.กรกนก หรือ เตย เข้ารักษาอาการตกขาวในวันที่ 11 พ.ค. มีอาการปวดท้องข้างซ้าย ตรวจปัสสาวะพบว่า มีเม็ดเลือดขาว มีเชื้อโรค อุ้งเชิงกรานอักเสบ และตรวจปัสสาวะได้ผลเป็นลบ

สรุปได้ว่า ไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน ที่สำคัญในช่วงเวลานั้น ห้องคลอดของโรงพยาบาลบางปลาม้า มีการติดเชื้อโควิด-19 ห้องผ่าตัดคลอดจึงถูกปิด ส่วนที่มีการอ้างว่า มีคนโทรศัพท์ให้มารับศพลูก ตรวจสอบแล้วพบว่า โทรศัพท์เบอร์ดังกล่าว เป็นเบอร์ที่โทรจากองค์การโทรศัพท์ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้น จะรอผลตรวจร่างกาย น.ส.กรกนก หรือ เตย หากพบว่าป่วยจิตเวช ก็จะปล่อยให้รักษาตัว แต่ถ้าผลตรวจปกติ จะฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

ซึ่งเมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผย ชาวโซเชียลต่างก็ตั้งข้อสังเกตุว่าหญิงสาวรายนี้จะโกหกสามีหรือเปล่าว่าตนเองตั้งท้อง แต่ทางฝั่งของสามีเชื่อหมดใจว่าแฟนสาวของตนเองตั้งท้อง ถ้าเหตุการณ์นี้เป็นการโกหกผู้เป็นสามีก็เห็นใจมากๆเลยทีเดียว