งานเข้าสาวไม่ใส่แมสก์พาลูกไปตลาด

งานเข้าสาวไม่ใส่แมสก์พาลูกไปตลาด

จากกรณีแม่ค้าตลาดสดเจ้าพระยา อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เตือนไม่ใส่มาสก์แต่โดนด่ากลับ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลฯ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่เกิดเหตุบริเวณตลาดเจ้าพระยา พบ น.ส.รัตจิต เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา 44 ปี แม่ค้าขายผลไม้ในตลาด กล่าวว่า เขาผ่านหน้าร้านเลยถามไปว่าไม่ใส่มาสก์ออกจากบ้านมาได้ยังไง เขาก็บอกมายุ่งอะไรกับเขาล่ะ จะมาตายกับเขาหรือ มีเยอะ ด่าเป็นชุดเป็นคำหยาบเลย อยากให้ใส่กันทุกคนตอนนี้มันน่ากลัว มันระบาด ถ้าเจออีกก็จะเตือนถ้าไม่ใส่มา ถ้าตนมีมาสก์ตนก็จะให้เลย ช่วยๆ กัน

แม่ค้าเตือนให้ใส่แมสก์แต่ถูกด ่า กลับด้วยคำไม่สุภาพ

น.ส.อัจฉรา ฉิมพุก 52 ปี ขายขนมปังปิ้ง กล่าวว่า ประมาณ 09.00 น. เมื่อ 4 วันที่แล้ว (8 พ.ค.) มีผู้หญิงขี่จักรยานมาทั้งแม่ทั้งลูก มาทั้งหมด 3 คนมาจอดตรงนี้ แม่ค้าเขาก็เห็นเลยถามว่าไม่ใส่มาสก์ออกจากบ้านมาได้ยังไง เขาก็ตอบว่าทำไมล่ะ ไม่ใส่แล้วทำไม ตรงนี้มันถนนหลวงนะทำไมจะจอดไม่ได้ ก็เลยบอกให้ไปจอดที่อื่น ไม่ใส่มาสก์ไม่เอา เขาก็โวยวายและก็ท้าตีท้าต่อย เขาบอกว่าคดีมาสก์ค่าปรับไม่เท่าไหร่ ตนเลยบอกเขาปรับน่ะเสียเงินเยอะนะ

และเขาก็เป็นชาวบ้านธรรมดาๆ เขาก็ไม่เชื่อว่าปรับเยอะบอกให้ทำคดีอื่นดีกว่า ไปโรงพักก็เสียเวลาคนอื่น เขาบอกรู้จักหมดแหละโรงพักบางศรีเมือง คนไม่ค่อยใส่หน้ากากเขาก็กลัวกัน ถ้าเราเป็นขึ้นมาก็จะไม่ได้ขายกัน ตอนนี้เศรษฐกิจก็แย่อยู่แล้ว ขายของก็แย่แล้ว ถ้าไม่ได้ขาย 4-5 วันแย่ เวลาเจอก็เตือนมาหลายคนแล้วแต่มีคนนี้ที่เถียง เมื่อเช้าก็มีขอทานมานั่งก็ไม่ใส่มาสก์ ตนก็มีสำรองให้ เจอก็ให้ ให้ไปก็ไม่ยอมใส่ จะร้องเพลง เราก็ต้องช่วยกันนะ เจอเขาโวยวายขึ้นมาก็ต้องช่วยกัน เราก็กลัวคนเป็นกันเยอะ เตือนมานานแล้วเตือนมาตั้งแต่แรกๆ แล้ว ไม่ท้อ แต่ก็กลัว แต่ก็คิดว่าต้องช่วยกัน ตนรู้ว่าคนนี้อยู่ในซอยแต่ไม่รู้จักชื่อกัน

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณซอย 16/3 หมู่บ้านค่ายลูกเสือ พบนางกิ่ง อายุ 36 ปี แม่บ้านเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนั้นไปตลาดแล้วใส่มาสก์แต่สายขาดจอดรถร้านน้ำเพื่อจะซื้อน้ำให้ลูก มีเจ้าของร้านกล้วยบอกว่าน้องมาได้ยังไง 3 คนไม่ใส่มาสก์ ตนเลยบอกว่าสายมาสก์ขาดตนไม่ได้เถียงสักคำ แต่ทางแม่ค้าถามว่าน้องทำอย่างนี้พี่ถ่ายรูปส่งโรงพักเสียค่าปรับแน่ๆ ตนไปเอาน้ำให้ลูกชายที่ร้านแล้วเรียกขึ้นรถทางแม่ค้าตะโกนด่ามาว่าหน้าด้านตนก็เลยมีปากเสียงกัน และมีการเถียงกันตามในคลิป แต่คุณด่าแบบนี้ไม่โอเค วันนั้นตนไม่ได้เอามาสก์ไปสำรอง ปกติจะใส่มาทุกครั้งวันนั้นเป็นอุบัติเหตุจริงๆ สายมาสก์ขาดไปจอดตรงหน้าร้านพอดีป้าแกก็คงกลัวและไม่พอใจ

แต่ที่โมโหคือคำว่าหน้าด้านไม่น่ามาพูดกับตนแบบนี้ ตอนมาสก์ขาดตนเก็บใส่ตะกร้าแล้วมันจะถึงร้านแล้วตนคงจะไม่เลี้ยวย้อนศรกลับไปเพราะว่าเนื่องจากมันไกล ตอนนี้รู้สึกยอมรับว่าไม่สวมมาสก์มันผิด แต่ตนไม่พอใจเรื่องถูกด่า ตนต้องขอโทษสังคมถ้าใส่มาสก์มันก็ดีกับทุกคนแล้วก็ปลอดภัยกับลูกของตนด้วย ก็มีหลายคนที่ติดโควิด ตนอยากถามคนที่ถ่ายคลิปไปว่าต้องการอะไรอยากเจอคนถ่ายคลิปและอยากถามว่าเรื่องมันเกิดยังไง คุณมาถามก่อนไหมคุณมาถ่ายตอนที่ตนถูกด่าแต่ตอนที่เขาด่าตนไม่มีคนถ่ายไว้ ขอถามหน่อยอยู่ดีๆ จะไปด่าทำไม ตอนนี้ทางตำรวจจะตัดสินยังไงตอนยอมรับยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไง

ต่อเมื่อเวลา 12.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ได้เชิญตัวนางกิ่งเดินทางเข้ามาที่ สภ.เพื่อดำเนินการสอบสวน เบื้องต้นนางกิ่งได้ให้การรับสารภาพว่าไม่ได้สวมใส่มาสก์จริง โดยทาง พ.ต.อ.ธีรเดช เจริญเดช ผกก.สภ.บางใหญ่ ได้ดำเนินการให้ทางพนักงานสอบสวนส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี พ.ต.อ.ธีรเดช เจริญเดช ผกก.สภ.บางใหญ่ กล่าวว่า จากที่ปรากฏในคลิปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวฝ่ายที่ไม่สวมมาสก์เข้ามาสอบปากคำโดยรับสารภาพว่าเหตุเกิดเมื่อประมาณ 3-4 วัน

ช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.ไปซื้อของใส่มาสก์ไปแต่มาสก์ขาดจึงได้นำใส่กระเป๋าไว้ ได้เกิดการโต้เถียงกับแม่ค้าจากการสอบปากคำไม่ได้ใส่จริงซึ่งเป็นความผิดในการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อซึ่งพื้นที่จังหวัดนนทบุรีตอนนี้ต้องสวมมาสก์ทุกคนถ้าไม่สวมจะมีความผิด คดีนี้เนื่องจากเป็นความผิดศาลแขวงถ้ารับสารภาพจะส่งฟ้องศาลในวันนี้อยากสั่งเตือนช่วงนี้เป็นช่วงแพร่ระบาดโดยทางผู้บัญชาการภาค 1 มีโครงการตำรวจมาแล้วให้ตำรวจทุก สภ.ช่วยกันประชาสัมพันธ์ รถกระจายเสียงในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงแพร่ระบาดไม่ว่าจะเป็นการสวมมาสก์ ใช้เจลล้างมือจุดไหนที่เป็นจุดเสี่ยงก็ไม่ควรไป

ขอบคุณ mgronline.com

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ