จัดงานแต่ง แต่ถูกไล่
กรณีเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Kim signature โพสต์ภาพขบวนขันหมากที่กำลังแห่เข้าหมู่บ้าน พร้อมข้อความระบุว่า ญาติขอยืมบ้านจัดงานแต่ง เมื่อโควิด-19 ระบาดระลอก 3 ติดต่อไปให้ยกเลิก แต่อีกฝ่ายไม่ยอมบอกว่าจะจัดแบบเงียบ ๆ ไม่เกิน 10 คน ถึงวันงานพบว่ามีขบวนขันหมากแห่เข้ามา จึงไล่ออกไป แต่อีกฝ่ายมีท่าทีกร่างจะเข้ามาทำร้าย ไม่มีความเกรงใจและเกรงกลัวต่อกฎหมาย
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ล่าสุดวันที่ 10 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ พบเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา
นางอร (นามสมมติ) เจ้าของบ้าน กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนก.พ.64 ที่ผ่านมา ลูกพี่ลูกน้องของตน พร้อมกับแฟนหนุ่มของเขา เข้ามาหาตนที่บ้าน เพื่อขอใช้บ้านตนจัดงานแต่งงาน เพราะบ้านฝ่ายเจ้าสาวอยู่ที่ จ.จันทบุรี ไม่มีบ้านในกรุงเทพฯ และไม่อยากไปจัดงานที่ จ.จันทบุรี เนื่องจากแขกส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ โดยระบุว่าจะขอจัดงานเล็ก ๆ ใช้เวลาไม่นาน ซึ่งตนเหมือนถูกมัดมือชก ปฏิเสธไม่ได้ ได้แต่ตอบตกลงไป
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
กระทั่งเริ่มมีCV19 ระลอก 3 ช่วงเดือนเม.ย.64 ตนจึงบอกพ่อที่อยู่ จ.จันทบุรี ให้บอกทางลูกพี่ลูกน้อง ให้ยกเลิกงานแต่ง โดยบอกไป 2 รอบ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมอ้างว่าจะจัดพิธีไหว้ผีเป็นพิธีเล็ก ๆ แขกไม่เกิน 10 คน ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง จนเวลา 08.00 น. ของวันที่ 9 พ.ค.64 เจ้าสาวแต่งชุดไทย มาพร้อมพ่อแม่ ก็เข้าใจว่ามีเพียงคนในครอบครัว ตนจึงขึ้นไปรอบนห้องเพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เข้าร่วมงานดังกล่าว
จากนั้นเวลาประมาณ 09.00 น. ไลน์กลุ่มหมู่บ้านเด้งขึ้นมาว่า มีการแห่ขันหมากเข้ามาในหมู่บ้าน ซึ่งตนมั่นใจว่าเป็นขบวนขันหมากที่มาบ้านตนแน่นอน จึงรีบลงมาด้านล่าง ภาพที่เห็นคือขบวนขันหมากแห่มาถึงหน้าบ้านแล้ว มีการกั้นประตูเงิน ประตูทอง ด้วยความโมโหจึงไล่ทั้งหมดออกไปจากบ้าน เพราะงานใหญ่กว่าที่คุยกันไว้ และแขกก็เกิน 10 คนตามที่ตกลง ซึ่งฝ่ายเจ้าบ่าวก็ไม่พอใจมีการเถียงตนกลับ แต่ตนก็ไม่ยอม ใช้เวลาเกือบ 10 นาที ทั้งหมดยอมเดินกลับออกไป โดยที่ยังไม่ได้เริ่มพิธีใด ๆ
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
จากนั้นตนรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาพ่นฆ่าเชื้อที่บ้าน พร้อมพ่นตามทางเดินหมู่บ้าน เพื่อความสบายใจของเพื่อนบ้าน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่ทราบว่าจะจัดพิธีใหญ่โตขนาดนี้ และตนก็ไม่เต็มใจให้ใช้บ้านของตัวเองจัดงานแต่งตั้งแต่แรกแล้ว หลังเกิดเหตุตนประสานผ่านพ่อขอให้ฝ่ายบ่าวสาว รับผิดชอบฉี ด พ ่น เ ชื้ อ จำนวนเงิน 10,000 บาท ซึ่งอีกฝ่ายระบุว่าจะชดใช้ให้
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของเจ้าบ่าว เจ้าสาว ย่านบางเขน และได้พบกับนายพิษณุ แก้วปรางค์ หรือ ปิ๊ง อายุ 30 ปี เจ้าบ่าว และน.ส.กมลวรรณ ปิติทาโน หรือ น้องหนู อายุ 25 ปี เจ้าสาว เปิดใจว่า ตนได้ปรึกษากับทางแม่ยายตั้งแต่ช่วงเดือนก.พ.64ที่ผ่านมา ว่าจะจัดงานแต่ง
ขณะนั้นยังไม่มีการแพร่กระจาย CV19 รอบที่ 3 จึงได้ตกลงกันเรื่องขอยืมสถานที่จัดงานแต่งงาน ที่บ้านของญาติเจ้าสาว ซึ่งเป็นญาติทางฝ่ายพ่อ ตอนนั้นคุยกันว่าจะจัดงานในช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ค.64 จัดโต๊ะจีนจำนวน 4 โต๊ะ ในบ้าน 2 โต๊ะและข้างนอกบ้านอีก 2 โต๊ะ
ต่อมาเกิดการแพร่กระจาย CV19 รอบที่ 3 และทางญาติฝ่ายหญิงได้ติดต่อมาขอให้ยกเลิกหรือเลื่อนการจัดงานออกไปก่อน แต่ตนยังคงยืนยันว่าจะจัดงานให้เรียบร้อย เพราะว่าได้เตรียมงานไว้หมดแล้ว จึงได้หาทางออกกับญาติฝ่ายหญิงว่า จะยกเลิกการจัดเลี้ยงโต๊ะจีน 4 โต๊ะ และจะขอแค่ทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือเพียงเท่านั้น มีคนร่วมงานไม่เกิน 10 คน และจะให้เพื่อน ๆ เข้ามาผูกข้อไม้ข้อมือในบ้านครั้งละ 2 คน โดยยืนยันไปแบบนี้ในคืนวันที่ 8 พ.ค.64 เป็นคืนก่อนการจัดงาน
ทั้งนี้หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อย ตนก็ยกขันหมากมาตามนัด โดยเจ้าสาวได้รอตนอยู่ที่บ้านญาติของฝ่ายเจ้าสาว โดยขณะที่ตนกำลังยกขันหมากเข้ามาในหมู่บ้านของเจ้าสาว ยอมรับว่าไปกันประมาณ 15 คน รวมคนในครอบครัวด้วย เจ้าของบ้านได้ออกมาบอกกับตนว่า
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ห้ามนำรถเข้ามาในหมู่บ้านและให้ปิดเสียงเพลง เนื่องจากกลัวจะมีปัญหาเรื่องเพื่อนบ้าน ตนก็ทำตามที่เจ้าของบ้านบอกทุกอย่าง แต่เมื่อไปถึงหน้าบ้าน กลับถูกเจ้าของบ้านซึ่งเป็นญาติฝ่ายเจ้าสาวชี้หน้าไล่อย่างกับหมูกับหมา พร้อมตระโกนว่า "พวกมึงออกไปจากบ้านให้หมดเลย ตนจึงตัดสินใจพาน้องหนู เจ้าสาว ไปทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือต่อที่บ้านเพื่อนในซอยรามอินทรา 39 ทั้งน้ำตา นอกจากนี้ ตนทราบว่าทางญาติฝ่ายน้องหนู ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านได้ไปแจ้งความโดยที่ตนก็ไม่ทราบว่าไปแจ้งเรื่องอะไร ตนจึงได้ตัดสินใจเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางชัน เพื่อเป็นหลักฐาน
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
น.ส.กมนวรรณ เจ้าสาว เปิดเผยว่า ตนก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกตน 2 คนเห็นว่าเป็นญาติก็เลยขอจัดงานแต่ง รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันผิดและทำให้เดือดร้อน แต่ทำไมไม่พูดกับตนตรง ๆ ว่าจะไม่ให้จัดงาน หรือว่ามีปัญหาอะไรส่วนตัวกับเจ้าบ่าวหรือไม่ ทั้งนี้ตนก็รู้สึกอายที่ถูกญาติหักหน้าต่อหน้าเพื่อน ๆ แบบนี้ จนต้องพากันไปผูกข้อไม้ข้อมือบ้านเพื่อน และตนขอฝากขอบคุณเพื่อน ๆ ที่คอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจ
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ขณะที่ แม่เจ้าบ่าว กล่าวว่า ตนรู้สึกงงและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนเราพูดกันดี ๆ ก็ได้ มาถึงไล่พวกตนอย่างกับหมูกับหมา ถ้าไม่ให้จัดงานก็น่าจะบอกกันดี ๆ เข้าใจว่าโควิค-19 รอบนี้แรงมาก แต่วันงานชี้หน้าด่าไล่ให้ออกไปเลย ซึ่งก่อนวันงานยังปรึกษากับพ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวเลยว่าจะมีการจัดงานแค่ผูกข้อไม้ข้อมือเท่านั้น ไม่มีการกินเลี้ยง ซึ่งทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาอะไร ตนอยากฝากถึงเจ้าของบ้านญาติฝ่ายเจ้าสาวว่า คุณควรจะพูดดี ๆ ไม่ใช่ว่าพูดเอาแต่ข้างคุณฝ่ายเดียว แล้วให้สังคมประณามแต่ฝ่ายของตน
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางฝ่ายญาติเจ้าสาว ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ได้ติดต่อผ่านทางพ่อเจ้าสาว ต้องการเรียกเงินค่าฉี ด พ ่น CV19 จำนวน 10,000 บาท ซึ่งขณะนี้ตนก็พยายามติดต่อทางเจ้าของบ้าน แต่ยังไม่ยอมรับสาย และบอกผ่านมาทางพ่อฝ่ายเจ้าสาวว่า จะคุญกันด้วยเงินเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนี้ตนก็ยังไม่ได้โอนหรือให้เงินไป
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34