วันที่ 27 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ โลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของหนูน้อย ป.1 ที่เก็บขยะขายและมักจะไปโรงเรียนสายอยู่บ่อยๆ ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ โรงเรียนบ้านบะเค ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ได้พบกับ เด็กหญิงวารณี ปารัศมี อายุ 7 ขวบ หรือน้องแพรวา เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า โดยปกติ ตนก็จะมีหน้าที่รับผิดชอบให้เก็บกวาดขยะในพื้นที่รับผิดชอบภายในโรงเรียน และมีการคัดแยกขยะอยู่แล้ว ตนจึงอยากนำขยะไปขาย เพื่อนำเงินที่ได้มาเก็บออมไว้เป็นทุนการศึกษา ซึ่งตนก็จะไปเก็บตามหมู่บ้านหลังเลิกเรียนอีกด้วย ซึ่งของที่เก็บมาก็จะนำไปให้คุณตานำเอาขยะไปขาย นำเงินมาออมกับทางธนาคารโรงเรียน

ด้าน คุณครูปราโมทย์ พลเยี่ยม ครูประจำชั้น ป.1 เล่าว่า น้องแพรวาเป็นเด็กที่มีควาขยันหมั่นเพียร ครูก็สอนเรื่องการคัดแยกขยะ โดยที่บ้านของน้องอาศัยอยู่กับตายาย ที่มีอาชีพเก็บของเก่าขาย น้องแพรวาก็จะนำขยะจากโรงเรียนมาให้คุณตานำไปขาย นำเงินที่ได้มาฝากกับบัญชีที่ทางโรงเรียนเปิดไว้ให้เพื่อฝึกเก็บออมเงิน จนมีเงินในบัญชี 12,000 บาทแล้ว

ด้าน คุณครูวรรณา จันทรโคตร คุณครูที่โพสต์ภาพ เล่าเหตุการณ์ในภาพว่า ช่วงเช้าตอนเข้าแถวเคารพธงชาติ พบว่านักเรียนชั้น ป.1 ยังไม่มาเข้าแถว 1 คน คือน้องแพรวา ตนก็มองไปเห็นน้องกำลังรีบวิ่งมาเข้าแถวพร้อมกับถุงขวดพลาสติก พร้อมบอกกับคุณครูว่า หนูขอโทษที่มาเข้าแถวช้า เพราะมัวไปเก็บขยะที่ใต้อาคารเรียนอยู่ ตนจึงได้ถ่ายภาพแล้วโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ก็ปรากฏว่าว่ามีผู้คนเข้ามาชื่นชมน้องเป็นจำนวนมาก สร้างความภาคภูมิใจให้ครอบครัวและคณะครูเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้นจึงได้ลงพื้นที่ ที่บ้านของน้องแพรวา ที่บ้านบะเค ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอโพนทอง พบกับ นายประเสริฐ แวงวรรณ ตาของน้องแพรวาเล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองก็มีอาชีพเก็บของเก่าอยู่แล้ว ซึ่งตั้งแต่เกิดมาน้องแพรวาก็จะเห็นตนเร่เก็บของเก่า เพื่อหาเงินมาเลี้ยงจุนเจือครอบครัว ส่วนพ่อประกอบอาชีพพ่อครัว แม่ก็เป็นพนักงานเสิร์ฟอาหาร ก็ส่งเงินเลี้ยงดูมาให้น้องแพรวาอย่างสม่ำเสมอ แต่น้องแพรวาอยากจะมีเงินออม จึงได้ตระเวนเก็บเศษวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้มาไว้ที่บ้าน โดยจะมีเทศบาลตำบลโพธิ์ทองมารับซื้อถึงบ้าน พอได้เงินมาตนก็จะนำไปฝากไว้บัญชีที่ทางโรงเรียนเปิดไว้ให้ ซึ่งตนก็รู้สึกภาคภูมิใจกับหลานคนนี้มาก เพราะมีนิสัยประหยัด อดออม ตนก็จะสั่งสอนให้เติบโตเป็นคนดีของสังคมต่อไป