พ่อหัวร้อนตบหน้าเด็ก ม.4
โลกโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์ คุณพ่อของเด็กหญิงรายหนึ่ง โมโหแทนลูก ตบหน้าเด็กนักเรียนหญิงวัย 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี โดยในคลิปคุณพ่อหัวร้อน บอกว่า ลูกสาวของเขาถูกแกล้งเอารองเท้าไปโยนทิ้ง เพราะไปมองหน้าเด็กนักเรียนหญิงที่ถูกตบ
โดยเมื่อวานนี้ นายณภัทร หม่องสา อายุ 36 ปี ผู้เป็นพ่อ ของ น.ส.ดา (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.ปากท่อ (คนที่ถูกตบหน้าในคลิป) ได้นำเอกสารและหลักฐาน พร้อมด้วยลูกสาวที่ถูกทำร้ายร่างกาย เข้าพบ ตำรวจ สภ.ปากท่อ ขอให้ดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ก่อเหตุที่ปรากฏในคลิป นายณภัทร พ่อของ น.ส.ดา เล่าว่า ลูกสาวโทรมาบอกว่าถูกทำร้าย และเห็นคลิปภาพเหตุการณ์ลูกสาวถูกพ่อของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง มาตบหน้าและพูดจาด่าทอ และนำปืนมาข่มขู่ลูกสาวด้วย เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ส่วนกรณีที่ลูกสาวของตนเอง นำรองเท้าซึ่งเข้าใจว่าเป็นรองเท้าของคู่กรณีไปทิ้งนั้น ตนก็ยอมรับว่าลูกของตนเองผิด และพร้อมที่จะขอโทษในสิ่งที่ลูกทำไป
เบื้องต้นทราบว่า คู่กรณี (คุณพ่อหัวร้อน) เป็นอดีตลูกของกำนันตำบลปากท่อ เป็นคนที่มีคนรู้จักมากมาย แต่มาทำแบบนี้ ตนก็รับไม่ได้เหมือนกัน เรื่องของเด็กก็ต้องว่ากันไปอีกเรื่อง เด็กเขาไม่ถึงกับที่จะฆ่ากันตาย แค่มองหน้ากัน ทะเลาะกันเดี๋ยวก็หาย เลิกรากันไป จึงมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับคุณพ่อหัวร้อนที่ก่อเหตุตบหน้าลูกสาวของตน ต่อมาเวลา 6 โมงเย็นของวานนี้ (20มี.ค.) คุณพ่อหัวร้อนในคลิป ได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน ที่ สภ.ปากท่อ ทราบชื่อ คือ นายสุรเดช เดชารุ่งโรจน์ อายุ 40 ปี มาพร้อมกับอาวุธปืนของกลางที่ใช้ข่มขู่เด็กนักเรียนหญิง โดยขณะกำลังเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา นายสุรเดช ได้พบกับ นายนายนภัทร หม่องสา พ่อของเด็กนักเรียนหญิงที่ถูกนายสุรเดชตบโดยบังเอิญ ทำให้นายนภัทร ข่มอารมณ์โกรธไม่ไหวตรงเข้าไปตบหน้านายสุรเดช 1 ครั้ง ซึ่งนายสุรเดชก็ไม่ได้โต้ตอบแต่อย่างใด
หลังตำรวจสอบปากคำเบื้องต้น นายสุรเดช ยอมรับว่าเป็นชายที่ปรากฏในคลิปจริง และได้กระทำการทุกอย่างจริง เนื่องจากโมโหแทนลูกสาวที่ถูกรุ่นพี่คนนี้มองหน้าเป็นประจำ โดยตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายสุรเดช คือ ใช้อาวุธปืนข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หรือหมู่บ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายนภัทร ทำร้ายร่างกายนายสุรเดช ด้วย แต่สุดท้าย พ.ต.อ.ดลชัย ปิ่นปัก ผกก.สภ.ปากท่อ ได้ช่วยไกล่เกลี่ยจนทั้งสองฝ่ายยอมขอโทษซึ่งกันและกัน แต่ในส่วนของคดีนั้นก็จะยังต้องดำเนินต่อไป