ครอบครัวหัวร้อน ตกงาน
กรณีเพจเจ๊ม้อยV+ เผยภาพและข้อความ ครอบครัวหัวร้อนเจ้าเดิมไปโผล่สร้างวีรกรรมที่บ้านดอนบม จ.ขอนแก่น พร้อมระบุข้อความว่า ยังจำได้หรือไม่ ครอบครัวหัวร้อน คราวนี้ไปโผล่สร้างวีรกรรมที่ขอนแก่น ในคลิปมีการถืออา วุ ธ เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 16 มี.ค.64 หาเรื่องไปทั่ว ด่าทุกคนที่ขวางหน้า ชาวบ้านต้องร่วมมือกันแล้วแบบนี้ ไล่มันออกไปพวกขยะสังคม อันธพาล น่าเป็นห่วงแบบนี้ มันมาสร้างบ้านให้คนในบ้านดอนบม มันมาทิ้งขยะหน้าบ้าน ทิ้งไม่ลงถัง ขยะมันเน่าเหม็น เลยบอกมันทิ้งลงถังดี ๆ มันเห ม็ น
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ล่าสุดวันที่ 19 มี.ค.64 ทีมข่าว ได้พูดคุยกับนายทับทิม ซ้ายบุรี ชาวบ้านดอนบม เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 16 มี.ค.64 เวลา 22.00 น. ขณะนั้นตนได้อยู่ที่บ้าน มีผู้ชาย 1 คน เป็นลูก พร้อมกับผู้หญิงอีก 2 คน เดินมาด้วยกัน ก่อนที่จะนำขยะในมือขว้างใส่ถังขยะที่อยู่หน้าบ้าน แต่ขยะไม่ลงถัง เพราะใช้วิธีการขว้างขยะแล้วไม่ลงที่ถัง เป็นวิธีที่ไม่เหมาะ น่าจะเดินอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงถังขยะ จึงทำให้เกิดความไม่พอใจ พร้อมกับได้โทรศัพท์เรียกญาติและคนอื่น ๆ ที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึง 30 เมตร ได้ออกมาช่วย
จากนั้นทางฝ่ายครอบครัวหัวร้อน ได้เรียกให้ตนออกไปพูดคุย ซึ่งตนได้ตอบกลับไปให้เดินมาคุยที่หน้าบ้านตน เพราะแถวบ้านดอนบมแห่งนี้ ไม่มีใครทำพฤติรรมทิ้งขยะด้วยการขว้างใส่ถังขยะ ซึ่งบ้านดอนบมอยู่กันด้วยความสงบสุขมาตลอด จากนั้นมีการปะทะคารมกันอย่างหนัก และเมื่อตนเห็นหน้าคู่กรณีเลยนึกออกว่า เป็นครอบครัวหัวร้อนที่มีคลิปในโลกโซเชียลฯ
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
นายคมสัน กองเพชร ผู้ใหญ่บ้านดอนบม หมู่ที่ 10 เล่าว่า หลังเกิดเหตุ ในช่วงสายของวันต่อมา คือวันที่ 17 มี.ค.64 ทางครอบครัวหัวร้อนได้เดินทางมาหาตน พร้อมกับบอกให้เรียกลูกบ้านคู่กรณีออกมาพูดคุย แต่เนื่องจากคู่กรณีได้ออกไปทำงาน จึงไม่สามารถตามมาพูดไกล่เกลี่ยได้ ทำให้ทางครอบครัวหัวร้อนไม่พอใจ เพราะต้องการจะเคลียร์ตอนนั้น
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
จากนั้นตนก็โดนรุมต่อว่า พร้อมถ่ายคลิปไว้ พร้อมบอกจะถอดตนออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นตนจึงแนะนำให้ไปร้องทุกข์ที่ สภ.ย่อยเมืองเก่า จ.ขอนแก่น เพราะตนไม่มีอำนาจที่จะรับแจ้งความได้ เนื่องจากตนมีหน้าที่ประนีประนอมเท่านั้น ตนจึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ เพราะเขาขู่ลูกสาวของตนด้วย แต่จะยังไม่เอาความ
ทีมข่าวเดินทางมายังปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง มีโอกาสพูดคุยกับนายพยอม แสงวันดี อายุ 32 ปี และน.ส.หทัยรัตน์ สมถวิล อายุ 38 ปี เล่าให้ฟังว่า ในวันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ 16 มี.ค.64 เวลาประมาณ 21.00 น. เนื่องจากตนใช้ให้ลูกชาย และลูกสะใภ้และคนงานอีก 1 คน เดินไปซื้อน้ำ บุหรี่ มาให้ตนที่บ้าน ขณะเดียวกัน นายเอ (นามสมมติ) ลูกชาย น.ส.ขวัญชนก ชาวโพ อายุ 19 ปี ลูกสะใภ้ และน.ส.ศิวพร รวดเร็ว อายุ 15 ปี คนงาน กำลังเดินกลับจากซื้อของ ระหว่างนั้น น.ส.ศิวพร เดินผ่านถังขยะแล้วพบว่าเห็นมีถุงคล้ายถุงปุ๋ยตกอยู่บริเวณพื้น และหยิบขึ้นมาเพื่อที่จะทิ้ง แต่เห็นว่าข้างในถุงนั้นเป็นแผ่นปูรองที่นอน จึงอยากได้ เลยดึงออกมา แล้วโยนถุงเปล่าที่มีโฟมอยู่ภายใน แต่ไม่ลงถังขยะ และเพื่อนบ้านที่ถ่ายวิดีโอนั้น จึงตะโกนต่อว่าทำความสกปรก ทิ้งขยะไม่ลงถัง ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
นายพยอม กล่าวอีกว่า บ้านเช่าอยู่ห่างไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ประมาณ 100-200 เมตร เมื่อมาถึงก็ให้ลูกสะใภ้ขึ้นรถ กระทั่งชาวบ้านยั่วโมโห จนทำมีลูกน้องคนงานผู้ชาย ตะโกนออกมาว่า “ครอบครัวหัวร้อนรู้จักไหม” เมื่อถามว่าทำไมเขาถึงตะโกนออกมาแบบนั้น อาจจะดื่มสุรามา และอาจจะอยากพูดให้ฝั่งชาวบ้านถ่ายคลิปหยุดพฤติกรรมยั่วยุ และอยากช่วยเหลือลูกสะใภ้ตนออกจากที่เกิดเหตุดังกล่าว ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้น ตนมีสติพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่โวยวายแม้แต่น้อย
กระทั่งตนพยายามเรียกทุกคนกลับขึ้นรถ เพื่อแยกย้ายกลับบ้านเช่า ต่อมาวันที่ 17 มี.ค.64 ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางผู้ใหญ่บ้านได้เรียกตนเข้าไปพูดคุย เนื่องจากชาวบ้านต่างได้ร้องเรียนไปยังผู้ใหญ่บ้านว่า ให้ตนย้ายออกจากพื้นที่ เพราะสร้างความเดือดร้อน
เมื่อถามว่าในวันนั้นที่พบผู้ใหญ่บ้าน ได้มีการข่มขู่ให้ออกจากงานจริงหรือไม่ ผู้ใหญ่บ้านทำหน้านิ่งเฉย แล้วไม่เรียกชาวบ้านที่ถ่ายวิดีโอเข้ามาพูดคุย อีกทั้งตนไม่ได้ข่มขู่อะไรผู้ใหญ่บ้าน เพียงแค่ต้องการนัดพูดคุยเจรจากับชาวบ้านที่ถ่ายคลิปเท่านั้น นายพยอม เผยอีกว่า ตนออกจากบ้านหลังดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 มี.ค.64 เพราะตนเข้ามาทำงานรับเหมา มุงหลังคาปูกระเบื้องหลังคา ตั้งแต่วันที่ 12-16 มี.ค.64 และหลังจากเสร็จงานตนจะย้ายไปทำงานที่ จ.ร้อยเอ็ด
ขณะนี้ครอบครัวของตนตกงาน เพราะไม่มีผู้รับเหมาคนไหนจ้างงานต่อ อีกทั้งเงินที่ได้ไปมุงหลังคา จำนวน 10,000 บาทยังไม่ได้รับเลย อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าได้ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในวันดังกล่าวก็ได้ทานยาลดระดับฮอร์โมนแล้ว และตนอยากขอโทษเจ้าของบ้านที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ อยากให้สังคมเข้าใจ ตนไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไรให้กับชาวบ้านเลย
น.ส.ขวัญชนก อายุ 19 ปี ลูกสะใภ้ และ น.ส.ศิวพร อายุ 15 ปี คนงาน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ในวันที่ 16 มี.ค.64 ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. กำลังกลับจากซื้อของให้นายพยอม พ่อของแฟน เพื่อที่จะเข้าบ้าน กระทั่ง เจอแผ่นรองนอนในถุงกระสอบที่ตกอยู่ในพื้น จึงให้น.ส.ศิวพร นำแผ่นรองนอนออกจากกระสอบ เพราะเห็นว่าภายในกระสอบนั้นมีเพียงแค่แผ่นโฟมและแผ่นรองนอน จึงทิ้งถุงกระสอบ แต่ไม่ลงถัง กระทั่งมีชาวบ้านผู้ชายตะโกนดังออกมาว่า พวกมึงมาทิ้งของอะไรแบบนี้
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
กลุ่มตนจึงพูดกล่าวขอโทษและเดินเข้าไปเก็บให้ลงถังขยะ ตนยืนยันว่าสิ่งที่ทิ้งนั้นเป็นเพียงกระสอบและมีโฟมอยู่ภายใน เมื่อตนรู้สึกว่าชาวบ้านตะโกนอยู่ตลอด และพยายามจะเข้ามาล้อมตัวไม่ให้เดินกลับบ้าน ตนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจึงโทรหาพ่อแม่ และพ่อแม่และคนงานขับรถเข้ามา
อีกทั้งระหว่างที่พ่อแม่มานั้น ชาวบ้านได้เริ่มถ่ายคลิปวิดีโอ อีกทั้งตนเห็นชาวบ้านท้าทายให้เดินมาใกล้ ๆ และเห็นชาวบ้านวิ่งเข้าไปในบ้านถืออาวุธลักษณะคล้ายมีดออกมา แล้วยืนอยู่ด้านหลังของคนถ่ายคลิปวิดีโอ แต่ตนยืนยันว่าทางครอบครัวตนไม่มีอาวุธมีด อีกทั้งนายพยอม ก็ได้ทานยาตามที่หมอสั่งอย่างต่อเนื่อง
คลิป
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34