วันนี้ (17 มี.ค.) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ประจำวัน ว่า สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 121.23 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4.48 แสนราย เสียชีวิตสะสม 2.68 ล้านราย เพิ่มขึ้น 9,830 ราย สหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล ที่ดูเหมือนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงก็กลับเพิ่มขึ้นมาอีก กัมพูชารายใหม่ขึ้นมาเป็นหลักร้อย สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทย ตั้งแต่ 28 ก.พ. - 16 มี.ค. รวม 53,842 ราย ยังทยอยฉีดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีแผนกระจายวัคซีนไปในพื้นที่เสี่ยงและประชาชนกลุ่มเสี่ยง

ส่วนประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 248 ราย ยังคงมาจากตลาดย่านบางแค เป็นการติดเชื้อในประเทศ 242 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รักษาหาย 40 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 27,402 ราย รักษาหายแล้ว 26,339 ราย เหลือรักษา 975 ราย เสียชีวิตสะสม 88 ราย ส่วนระลอกใหม่ติดเชื้อสะสม 23,165 ราย หายสะสม 22,162 ราย เสียชีวิตสะสม 28 ราย

ผู้ติดเชื้อในประเทศมี 3 กลุ่ม ได้แก่ สมุทรสาคร 33 ราย คิดเป็น 13.64% , กทม. 167 ราย คิดเป็น 69.01% และจังหวัดอื่นๆ 42 ราย คิดเป็น 17.36% หลังค้นหาเชิงรุกในสมุทรสาครจนยอดลดลงมา ตอนนี้ยอดเริ่มชันขึ้น สำหรับรายละเอียดประเภทผู้ติดเชื้อพบว่า มาจาก 1.ระบบเฝ้าระวัง 79 ราย 2.คัดกรองเชิงรุกในชุมชน 163 ราย 3.เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย

สมุทรสาคร นครปฐม เพชรบุรี สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ ที่พบการติดเชื้อยังสืบเนื่องมาจากตลาดบางแค อย่างศรีสะเกษก็เป้นผู้ค้าในตลาดบางแคกลับไปเยี่ยมบ้าน ทำให้เศรีสะเกษที่เป็น 0 มาตลอดก็ไข่แตก ส่วนการค้นหาเชิงรุกใน กทม. มี 2 ส่วน คือ กรณีย่านบางแคมีการค้นหาในชุมชนและรถพระราชทาน พบเชื้อ 86 ราย

ส่วนอีกที่คือ สถานกักกันตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบางเขน พบติดเชื้อ 68 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยกรมควบคุมโรคจะลงไปตรวจสอบดูมาตรการจัดสถานกักกันว่าปลอดภัยแค่ไหนอย่างไร เบื้องต้นทราบว่าเป็นการพบในการกักกันกลุ่มเล็ก ก่อนที่จะเข้าสถานกักกันห้องใหญ่ ถือว่ายังควบคุมได้ จะนำข้อมูลมาเสนอต่อไป” พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กทม.รายงานว่าจากเหตุตลาดบางแค ตรวจค้นไปแล้วทั้งเก็บตัวอย่างทางโพรงจมูกและน้ำลาย รวม 6 พันกว่าคน ผลบวก 268 คน ยังเดินหน้าตรวจต่อเนื่อง วันนี้ตรวจอีกอย่างน้อย 1.5 พันคน และขอความร่วมมือประชาชนที่ผ่านไปตลาดบางแคก็ขอให้มาตรวจ จึงทำให้ยังเห็นตัวเลขที่อาจเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคพบความเสี่ยงคือ ตลาดค่อนข้างแออัด ตั้งแผงใกล้ชิด อากาศที่ปิดอยู่แล้วยิ่งปิดเข้าไปใหญ่ บางจุดใต้ถุนไม่มีการระบายอากาศ วันที่ 16-18 มี.ค. มีการปิดตลาดและปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ติดตั้งพัดลมให้อากาศหมุนเวียน

ศบค.ขอให้ทุกจังหวัดตรวจสอบตรวจค้นปูพรมว่าตลาดในพื้นที่มีความเสี่ยงอะไรบ้าง เพราะที่ผ่านมาเห็นการติดเชื้อขยายวงกว้างอย่างรวดเร็วในตลาดใหญ่ๆ โดยเฉพาะที่ค้าส่งข้ามพื้นที่ โดยต้องปรับปรุงแก้ไขก่อนการติดเชื้อและเกิดรายงานเป็นคลัสเตอร์ใหม่ๆ พญงอภิสมัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ