ท้าสาบาน พ่อค้าสลาก ปัดอมเงิน 12 ล้าน

ท้าสาบาน พ่อค้าสลาก ปัดอมเงิน 12 ล้าน

กรณีนายละม่อม บุญเสือ หรือ โอ๋ อายุ 59 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.นครชัยศรี ว่าซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจาก นายโกศล แซ่โค้ว หรือ เหน่ง ภายในวัดสว่างอารมณ์ อ.นครชัยศรี หนึ่งในนั้นมีหมายเลข 835538 งวดประจำวันที่ 1 มี.ค.64 จำนวน 2 ใบ เป็นรางวัลที่ 1

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

แต่ปรากฏว่ายังไม่สามารถเคลียร์กันได้ เนื่องจากนายโกศล ยืนยันว่าหวยชุดที่ถูกรางวัลไม่มีในแผงของตัวเอง ดังนั้นถ้าเป็นเช่นนี้ขอท้าสาบานวัดพระแก้วฯ และวัดสว่างฯ ในวันที่ 20 มี.ค.64

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ล่าสุดวันที่ 16 มี.ค.64 ที่วัดสว่างอารมณ์ นายละม่อม บุญเสือ ซึ่งเดินทางมาทำหน้าที่ดูแลบริเวณศาลาบูชาไอ้ไข่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้นัดนายโกศล ให้ไปสาบานวัดพระแก้วฯ และมาวัดสว่างฯ วันที่ 20 มี.ค.64 เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตัดสินให้รู้กันว่า ใครพูดไม่จริงให้มีอันเป็นไป

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ทั้งนี้ตนยืนยันว่าซื้อลอตเตอรี่ในวันที่ 27 ก.พ.64 แค่วันเดียวและเชื่อใจกันจึงดึงฝากไว้ ส่วนวันที่ 28 ก.พ.64 ตนไม่ได้เดินไปยุ่งที่แผงเลย อยู่แต่ในศาลาไอ้ไข่ คอยรับใช้ไอ้ไข่

นอกจากนี้ตามหลักแล้ว คนเราถ้าไม่มีความผิด ไม่มีพิรุธ ควรพูดคุยกันแบบชาวบ้านธรรมดา ไม่ควรเอาทนายมาด้วยซ้ำ และตนยังสงสัยเรื่องที่นายโกศล เปิดประเด็นกับนักข่าวก่อนว่า ลอตเตอรี่เป็นของนายโกศล จึงเชื่อหวย 2 ใบมีจริง อย่างไรก็ตาม ตนรับใช้ไอ้ไข่มานาน ก็ขอไว้เยอะ จึงเชื่อว่าไอ้ไข่เห็น แต่คิดว่าคงเป็นทุกขลาภ สำหรับตอนนี้รอดูความจริงปรากฏ ตนให้คนในวัดติดตามว่านายโกศล ดึงลอตเตอรี่มาจากใคร ซึ่งตอนนี้ทราบว่าลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 อายัดไว้แล้ว 7 ใบ เพราะหวยมีแค่ 99 ใบ มีการขึ้นรางวัลไปแล้ว 92 ใบ

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ขณะที่สภ.นครชัยศรี นายโกศล พร้อมด้วยนายอาทิตย์ ว่องวสุสมวงศ์ ทนายความ เดินทางมาที่โรงพัก เพื่อมอบหลักฐาน และรายละเอียดการเบิกถอนบัญชีธนาคารกรุงไทยทั้ง 2 เล่ม ซึ่งเป็นเล่มที่ใช้ในการซื้อลอตเตอรี่ และเล่มที่ใช้เปิดบัญชีขึ้นเงินกับกองสลากของลอตเตอรี่ใบแรก ที่มีปัญหากับชาวเมียนมาก่อนหน้านี้ เพื่อยืนยันแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่มีการนำหวยชุด 2 ใบ รางวัลที่ 1 ที่นายละม่อมกล่าวอ้าง และคนขายได้แอบไปขึ้นเงิน ต่อพนักงานสอบสวน

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

นายอาทิตย์ ว่องวสุสมวงศ์ กล่าวชี้แจงเรื่องบัญชีธนาคารอย่างละเอียดว่า บัญชีที่ 1 เป็นบัญชีที่ใช้ซื้อขายหวย และเป็นบัญชีที่นายโกศล ส่งให้น้องสาว ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องภรรยาของนายจ้างชาวเมียนมา เพื่อให้โอนเงินค่าหวย แต่ในสเตตเมนต์ตั้งแต่วันที่ 22-28 ก.พ.64 ยืนยันไม่มียอด 300 หรือ 400 โอนเงินเข้าในบัญชี จุดนี้นายโกศล จึงยืนยันว่าเป็นหวยของตัวเอง รวมทั้งในบัญชีนี้ไม่มีจำนวนเงินที่มีการเอาสลากรางวัลไปขึ้นเงินแต่อย่างใด ส่วนบัญชีที่เปิดใหม่ มียอดเงินรวม 5,970,000 บาท เป็นยอดที่เอาสลากเคสเมียนมาไปขึ้นเงิน ซึ่งจำนวนเงินหักภาษีแล้ว บัญชีนี้ยืนยันไม่มียอดเพิ่มอีก 12 ล้านบาท เพราะลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มีใบเดียว ที่ชาวเมียนมาถูกหวย

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ทั้งนี้ประเด็นที่ชาวเมียนมาร์ซื้อหวย คำว่านายจ้างที่ชาวเมียนมาซื้อหวยนั้น ความจริงคือเป็นน้องภรรยาของนายจ้างชาวเมียนมา หรือเป็นน้องสาวทอมของนายโกศล ใช้ชื่อว่า น.ส.เอ เป็นคนที่ชาวเมียนมาฝากซื้อหวย โดยน.ส.เอได้วิดีโอคอลทาง Facebook ไปหานายโกศล และให้ชาวเมียนมาเลือก

ซึ่งได้เลือกมาทั้งหมด 4 ใบ แบ่งเป็นหวยชุด 1 ชุด คือเลข 830803 และหวยเดี่ยว 2 ใบ คือเลข 556883 และ 835538 นายโกศล จึงถ่ายรูปและส่งใน Messenger Facebook ให้ น.ส.เอ เพื่อนำไปให้ชาวเมียนมาดูและตกลง ซึ่งหากรับก็ให้โอนเงินมาจำนวน 400 บาท ตามเลขบัญชีที่ส่งให้ น.ส.เอ ในแชตที่คุยกัน แต่น.ส.เอ ไม่มีการโอนเงิน แต่กลับส่งคำว่า 555 และถ่ายรูปเงินเหรียญให้นายโกศลดู ตามไทม์ไลน์ต่อมาคือวันที่ 28 ก.พ.64 ตามที่ชาวเมียนมาให้การว่า เวลา 18.00 น. ได้นำเงินสดจำนวน 300 บาท ไปจ่ายกับมือให้ น.ส.เอ แต่ น.ส.เอ ไม่มีการโอนเงินให้นายโกศล สาเหตุเพราะลืม

กระทั่งวันที่ 1 มี.ค.64 หลังนายโกศล ขายหวยหมด และมาเช็กดูอีกทีว่าหวยในกระเป๋า เป็นหวยรางวัลที่ 1 จึงไปขึ้นเงิน โดยมีการไปดำเนินการลงบันทึกประจำวันด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 2 มี.ค.64 ก่อนเดินทางไปขึ้นเงิน ในวันที่ 3 มี.ค.64 ระหว่างนี้ก็มีปัญหากัน เพราะชาวเมียนมาได้ติดต่อหา น.ส.เอ ตลอดเพื่อทวงถามลอตเตอรี่ เพราะถูกรางวัล และให้รับผิดชอบ แต่นายโกศล ก็ยืนยันว่าเป็นของนายโกศล ซึ่งทำให้ครอบครัวเกิดการทะเลาะ ชาวเมียนมาส่งตัวแทนมาไกล่เกลี่ย ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้

เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 ชาวเมียนมาได้ไป 3,500,000 นายโกศลได้ไป 2,500,000 บาท สำหรับความสัมพันธ์ของครัวครอบนี้ คือ น.ส.เอ (น้องสาวนายโกศล), นายบี (นายจ้างหรือพี่เขยนายโกศล) ทำอาชีพหล่อพระพุทธรูปตามที่ร้าน สังฆภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ว่าจ้างรับเหมา โดยนายบีเป็นนายจ้างโดยตรง ทั้งหาคนงาน แรงงานมาทำ และหางาน ส่วนน.ส.เอ ก็ทำงานอยู่ภายในครอบครัว ชาวเมียนมาจึงเหมาเรียกว่านายจ้างไปด้วย สังคมจึงสับสน ทั้งที่นายจ้างตัวจริงคือนายบี ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องลอตเตอรี่เลย

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

นายโกศล กล่าวยืนยันว่า สาเหตุที่เปิดบัญชีใหม่เพื่อขึ้นเงิน เพราะวันที่ไปขึ้นเงิน ลืมนำสมุดบัญชีไปจึงเปิดบัญชีใหม่ และหวยรางวัลที่ 1 มีใบเดียว ตนยืนยันอีกครั้งไม่เคยไปดึงหวยจากร้านอื่นมาขาย หากไม่มีลูกค้ามาสั่ง พร้อมยอมรับว่างวดเมื่อวันที่ 1 มี.ค.64 ตนได้ไปดึงหวยร้านอื่นมาจริง แต่สาเหตุที่ดึงเพราะว่าที่แผงไม่มีเลขที่ลูกค้าต้องการ จึงไปดึงจากร้านอื่น และเก็บไว้ให้ลูกค้าที่สั่งเท่านั้น ไม่มีการเอาออกไปติดแผงขาย ส่วนไปดึงหวยมาจากใคร เลขอะไรบ้างนั้นจำไม่ได้ เพราะดึงจากพ่อค้าแม่ค้าหลายคน หลายใบ รวมถึงไม่รู้ด้วยว่ามีเลขวัคซีน ตอนนั้นหาแต่สัญลักษณ์กบ และผีน้อย และลูกค้าก็ไม่ได้ถามหา

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

นายโกศล กล่าวยืนยันว่า สาเหตุที่เปิดบัญชีใหม่เพื่อขึ้นเงิน เพราะวันที่ไปขึ้นเงิน ลืมนำสมุดบัญชีไปจึงเปิดบัญชีใหม่ และหวยรางวัลที่ 1 มีใบเดียว ตนยืนยันอีกครั้งไม่เคยไปดึงหวยจากร้านอื่นมาขาย หากไม่มีลูกค้ามาสั่ง พร้อมยอมรับว่างวดเมื่อวันที่ 1 มี.ค.64 ตนได้ไปดึงหวยร้านอื่นมาจริง แต่สาเหตุที่ดึงเพราะว่าที่แผงไม่มีเลขที่ลูกค้าต้องการ จึงไปดึงจากร้านอื่น และเก็บไว้ให้ลูกค้าที่สั่งเท่านั้น ไม่มีการเอาออกไปติดแผงขาย ส่วนไปดึงหวยมาจากใคร เลขอะไรบ้างนั้นจำไม่ได้ เพราะดึงจากพ่อค้าแม่ค้าหลายคน หลายใบ รวมถึงไม่รู้ด้วยว่ามีเลขวัคซีน ตอนนั้นหาแต่สัญลักษณ์กบ และผีน้อย และลูกค้าก็ไม่ได้ถามหา

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

นอกจากนี้ ตนยืนยันว่าหวยชุดรางวัลที่ 1 ไม่มีอยู่จริง รอไป 20 ปีก็ไม่มีชื่อตนไปขึ้นสลากชุดที่กล่าวอ้างมาแน่นอน ซึ่งคู่กรณีนัดสาบานวันที่ 20 มี.ค.64 ก็พร้อมไปสาบาน ซึ่งไม่กังวลว่าคำสาบานจะเข้าตัว เพราะไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนทางโน้นแจ้งความตนก็จะปรึกษาทนายต่อไป เพราะตอนนี้คู่กรณีนำเรื่องของตนไปพูดเชิงเสียหาย กระทบการทำมาหากิน ซึ่งน้อยใจมาก ตนขอย้อนถามว่าตนไปทำอะไรให้ ก็แค่คนซื้อคนขาย ไม่เคยมีปัญหากันเลย การเรียกป๋าก็เป็นปกติที่อยากขายของ ต้องเรียกลูกค้า พูดจาไพเราะอยู่แล้ว สำหรับขอโต้แย้งของคู่กรณีที่กล่าวหาว่าเอาทนายมาขู่นั้น ตนยืนยันว่าตนบริสุทธิ์ใจ แต่ด้วยความที่การศึกษาน้อย จบแค่ ป.6 ความรู้ไม่มี เรื่องกฎหมายก็ไม่รู้ หาเช้ากินค่ำ ก็ต้องปรึกษาทนายเป็นปกติ

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าวอัมรินทร์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ