ลุงหลงลืม ซวย 3 เด้ง ขับรถตู้รับพนักงานตั้งแต่ตี 1 ลงทุ่งนา เร่งเครื่องไฟไหม้ทั้งคัน

ลุงหลงลืม ซวย 3 เด้ง ขับรถตู้รับพนักงานตั้งแต่ตี 1 ลงทุ่งนา เร่งเครื่องไฟไหม้ทั้งคัน

วันที่ 15 มี.ค. ตำรวจ สภ.บ้านหมี่ ได้รับแจ้งชาวบ้านที่ออกไปหาหนู ว่ามีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ตู้ บริเวณกลางทุ่งนาหมู่ 1 ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี จึงได้ประสานรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลบ้านหมี่ พร้อมเจ้าหน้าที่รุดเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุทันที

พบเพลิงได้ลุกไหม้รถตู้ไปจนมอด แต่ยังมีควันไฟพวยพุ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการฉีดน้ำเพื่อความปลอดภัย ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพเสียหายทั้งคัน

จากการสอบถาม นายมานพ ทับฤทธิ์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 ม.5 ต.ท่าหลวง อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี คนขับรถตู้ ซึ่งยังดูสับสนกับเหตุการณ์ เล่าว่า เป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นรถรับส่งพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง หมายเลขทะเบียนรถก็จำไม่ได้ โดยขับออกมาจาก ต.วังเพลิง อ.โคกสำโรง เมื่อประมาณ 01.00 น. เพื่อออกไปรับพนักงาน แต่ไม่รู้ว่าขับเลยหลงมาถึง อ.บ้านหมี่ ได้อย่างไร ขับวกวนไปมาจนหลงทางจนออกไปกลางทุ่ง หาทางกลับไม่เจอ เส้นทางก็มืดสนิท จนรถติดคันนา จึงพยายามเร่งเครื่องเพื่อให้หลุด จนล้อหมุนฟรีเสียดสีฟางข้าวเกิดความร้อน ไฟลุกที่ล้อหลังด้านขวา พยายามจะใช้น้ำดื่มราดดับไฟ แต่ไม่สามารถดับได้ เปลวไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับรถคันนี้ติดตั้งถังเชื้อเพลิงเอ็นจีวี จำนวน 3 ถัง จนสุดท้ายต้องวิ่งหลบหนีซ่อนตัวหลังต้นไม้ใหญ่ กลัวรถจะระเบิด มองดูรถมอดไหม้ไปกับตาโดยไม่สามารถติดต่อใครได้ เนื่องจากมือถืออยู่ในรถ จนเห็นแสงไฟจากคนหาหนู จึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ

หลังจากเพลิงสงบ ไฟดับสนิท เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบพบว่ารถตู้คันดังกล่าว ยี่ห้อ โตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฮง 8342 กทม เป็นของบริษัทมายเฟรน ทรานสปอร์ตปอนด์เซอร์วิส ที่ตั้ง ตำบลวังเพลิง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี จึงได้ติดต่อกับเจ้าของบริษัท เพื่อเดินทางมาดูรถ จนทราบว่า ลุงมานพเป็นคนขับรถตู้รับส่งพนักงานโรงงานบริษัทฯ พื้นที่รับผิดชอบ อ.โคกสำโรง และ อ.ชัยบาดาล ทุกวันเวลาประมาณ 04.00 น. ลุงจะมารับรถเพื่อออกไปรับพนักงาน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ แต่ทำไมคืนนี้ลุงแกเอารถออกไปก่อนเวลา แต่ก็ไม่ติดใจ เพราะเชื่อใจในความซื่อสัตย์ของลุง แต่ลุงแกชอบหลงๆ ลืมๆ ครั้งหนึ่งลุงมานพเคยขับรถเลยไปไกลถึงจังหวัดเพชรบูรณ์มาแล้ว ในครั้งนั้นทางบริษัทได้พักงานลุงมานพ 3 วัน เพื่อให้พักผ่อน และไปหาหมอเพื่อตรวจรักษาอาการหลงลืม ก่อนให้กลับมาขับรถอีกครั้ง เนื่องจากสงสารกลัวลุงจะตกงาน ครอบครัวจะลำบาก ไม่คิดว่าลุงแกจะมีอาการหลงลืมได้ถึงเพียงนี้ จนเกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ