ทบทวนสิทธิ์ เปลี่ยนสถานะรอรับเงินแล้ว

ทบทวนสิทธิ์ เปลี่ยนสถานะรอรับเงินแล้ว

จากการช่วยเหลือของรัฐบาลที่ได้มีมาตราการในการให้เงินช่วยเหลือในโครงการเราไม่ทิ้งกันกันแก่ประชาชน ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า เมื่อวันที่14 พฤษภาคม กระทรวงการคลังส่ง SMS แจ้งผลการพิจารณายื่นขอทบทวนสิทธิ์ภายใต้มาตรการช่วยเหลือ 5000 บาท

โดยมีกลุ่มผู้ยื่นขอทบทวนสิทธิ์จำนวน 4.7 แสนรายได้รับแจ้งว่า ไม่ได้รับสิทธิ์เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีชื่อปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลหัวหน้าครัวเรือนเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรแล้ว

ทั้งนี้กระทรวงการคลังตรวจสอบพบว่า ฐานข้อมูลเกษตกรที่กระทรวงการคลังได้รับจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในเดือนมีนาคม 2563 และใช้ในการพิจารณาตรวจสอบคัดกรองผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการช่วยเหลือ 5000 บาท มีผู้เป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรจำนวน 9 ล้านคน

ต่อมาในเดือนเมษายน 2563 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดให้เกษตรกรปรับปรุงข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบันเพื่อรับสิทธิ์มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ทำให้ฐานข้อมูลเกษตรกรเปลี่ยนแปลงไป โดยมีผู้เป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรลดลงเหลือ 8.3 ล้านคน

นายลวรณ กล่าวต่อว่า กระทรวงการคลังขออภัยในความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าผู้ขอทบทวนสิทธิ์กลุ่มนี้ยังไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ กระทรวงการคลังจะตรวจสอบคัดกรองให้อีกครั้งกับฐานข้อมูลชุดล่าสุดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยเร็วที่สุด หากผ่านเกณฑ์การคัดกรอง กระทรวงการคลังจะโอนเงินช่วยเหลือให้เรียบร้อยภายในสัปดาห์หน้า

ผู้ที่ได้รับ SMS แจ้งว่าเป็นเกษตรกร 470000 คนนั้น เกิดจากการแจ้งข้อมูลผิดพลาด ซึ่งขนาดนี้รัฐได้ตรวจสอบแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องแล้ว และมีผู้ผ่านเกณฑ์ 400000 คน โดยคาดว่าจะได้รับเงินเข้าบัญชีในวันที่ 20 พค นี้ ทั้งนี้ ได้ส่ง SMS แจ้งให้ผู้ขอทบทวนสิทธิ์ทราบแล้ว นอกจากนี้ ผู้ขอทบทวนสิทธิ์สามารถเข้าไปตรวจสอบสถานะได้ที่เว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน จากนั้นกดที่ ตรวจสอบสถานะ ที่เป็นแถบสีเทา เพื่อตรวจสอบสิทธิ์

สำหรับวันนี้ความคืบหน้าล่าสุดของสถานะทบทวนสิทธิ์พบว่า มีการเปลี่ยนสถานะกันหลายคนแล้ว เป็นรอรับเงิน

สำหรับท่านใดที่ยังไม่มั่นใจในสถานะของตนเองก็สามารถเข้าไปตรวจสอบสิทธิ์ของเราได้ตามวิธีข้างต้นได้เลยค่ะ

ขอบคุณ กระทรวงการคลัง

เรียบเรียง mumkhao

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ