จากวิกฤตการณ์ co vid19 ที่ในหลายๆประเทศกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ในขณะนี้ บางประเทศมีมาตราการช่วยเหลือประชากรที่ได้รับผลกระทบด้วยมาตราการต่างๆ และประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ล่าสุดวันที่14 พฤษภาคม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมการทบทวนภาวะเศรษฐกิจ

โดยมีผู้บริหารกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ว่าได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง วางรูปแบบในการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อใช้ดูแลช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ของ co vid19 และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ให้ได้รับการดูแลช่วยเหลือเพื่อให้สามารถยังเดินหน้าธุรกิจได้

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ไปเร่งพิจารณาแนวทางในการดูแลช่วยเหลือบางอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ของ co vid19 แต่ยังมีความพยายามดูแลรักษาแรงงาน ไม่ปล่อยให้ตกงาน ว่าจะมีแนวทางในการช่วยเหลือเพื่อให้อุตสาหกรรมยังสามารถคงการจ้างงานไว้ได้อย่างไรบ้าง โดยในเรื่องนี้ต้องทำให้เสร็จก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้

นอกจากนี้ ได้ให้ทุกหน่วยงานเร่งเตรียมโครงการเพื่อเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะกลางพิจารณา โดยย้ำว่าโครงการที่จะเสนอต้องเป็นโครงการที่เน้นทำให้เกิดการจ้างงานกับแรงงานในพื้นที่ สร้างรายได้ในท้องถิ่น

การฟื้นฟูเศรษฐกิจ

นายอุตตม สาวนายน รมว คลัง กล่าวว่า เบื้องต้นขนาดของกองทุนที่จะจัดตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลผู้ประกอบการายเล็ก วงเงินไม่เกิน 1 แสนล้านบาท โดยจะใช้ส่วนหนึ่งจากงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ตาม พรก กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท

โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการออกแบบรูปแบบของกองทุน เงื่อนไข และแนวทางการปฏิบัติ ซึ่งจะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด

ผุ้ประกอบการธุรกิจ

สำหรับการจัดวางรูปแบบหรือการวางมาตราการในการช่วยเหลือนายจ้างอาจจะต้องรอดูความชัดเจนกันต่อไปว่าจะต้องเดินทางไปไหนทิศทางไหน

ขอบคุณ กระทรวงการคลัง

เรียบเรียง mumkhao