สามารถ พยัคฆ์อรุณ ภรรยาเก่า ฟ้องแบ่งสมบัติ

สามารถ พยัคฆ์อรุณ ภรรยาเก่า ฟ้องแบ่งสมบัติ

จากกณี รักร้าวยากคืนเรือน สามารถ ทิพย์ท่าไม้ (ภพธีรธรรม) หรือ สามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตนักมวยมากพรสวรรค์ ก็มีประเด็นอีกครั้ง หลังจาก น้องหญิง น.ส.สมหญิง จุมพิมาย หรือ วลัยทิพ ภพธีรธรรม ฝ่ายโจทก์ในฐานะอดีตภรรยายื่นฟ้องศาล

กรณีทั้งคู่ตัดสินใจแยกทางกัน และมีการฟ้องร้องต่อศาลชั้นต้น เพื่อเรียกร้องทรัพย์สินแบ่งสินสมรสมาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2560

เดิมที สามารถ และ น้องหญิง แต่งงานกันโดยปลูกบ้านขึ้น 2 หลังคู่กัน ย่านซอยสายไหม กรุงเทพฯ พร้อมสร้างค่ายมวยขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ชื่อว่า ค่ายภพธีรธรรม และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมา

กระทั่งเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2563 ศาลชั้นต้น (ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สาขามีนบุรี) พิพากษาให้ สามารถ และ น้องหญิง (ภรรยาเก่า) ร่วมกันแบ่งที่ดินในส่วนของค่ายมวย (ภพธีรธรรมเดิม) เนื้อที่ 1 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวคนละกึ่งหนึ่ง

หากไม่สามารถแบ่งได้ให้ประมูลขายกัน หรือถ้าตกลงไม่ได้ให้ขายทอดตลาด แล้วนำเงินมาแบ่งกันคนละกึ่งหนึ่ง

ส่วนเรื่องบ้านสองหลังซึ่งปลูกคู่กันในพื้นที่ค่ายมวยย่านซอยสายไหม ให้แบ่งกันคนละหลัง และสำหรับที่ดินที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งโจทก์ (หญิง) ซื้อมาระหว่างสมรส แล้วโอนใส่ชื่อมารดาของตัวนั้น ให้โอนร้อยละ 15 ของที่ดิน คืนแก่สามารถ หรือ ให้เป็นเงิน 204,000 บาท (อย่างใดอย่างหนึ่ง)

ล่าสุดจากการเปิดเผยของ สามารถ แจ้งว่า ตนได้มอบหมายให้ทนายยื่นอุทธรณ์ต่อศาลมีนบุรี เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมยินดีเปิดอกต่อสื่อมวลชนถึงกรณีต้องตกในฐานะจำเลย

จริงๆ แล้วหลังเกิดเรื่องขึ้นศาล มีสื่อมวลชนสอบถามมาเป็นจำนวนมาก และผมคิดว่าควรจะรอให้กระบวนการยุติธรรมสิ้นสุดจึงจะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงในมุมของผมบ้าง เพราะที่ผ่านมาสังคมรับรู้แต่เพียงเรื่องของเขา (น้องหญิง) ฝ่ายเดียว ซึ่งมันจะกระทบกับคนรอบข้างเยอะ

ทุกวันนี้ผมยังมีครอบครัว มีเพื่อนมีลูกศิษย์ฝึกสอนมวย มีสินค้าที่ผมรับเป็นพรีเซนเตอร์ให้

สำหรับตัวผมเองไม่ค่อยสนใจข่าวต่างๆ เท่าไร แต่พอทราบว่าข่าวที่ออกมาทำให้สังคมมองผมในแง่ไม่ดีเยอะมาก ทั้งที่ความจริงยังมีอีกหลายเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

แม้ผมจะผ่านปัญหาแบบนี้มาเยอะแล้ว แต่ผมเป็นห่วงความรู้สึกของคนรอบข้างมากกว่า จึงคิดอยากจะออกมาชี้แจงความจริงในมุมของผมบ้าง ซึ่งจะทำให้ทุกอย่างกระจ่างโดยไม่ต้องคาดเดากันไปต่างๆ นานา

ซึ่งในช่วงสถานการณ์ cv  แพร่ระบาดแบบนี้ คงไม่เหมาะที่จะเชิญสื่อมวลชนมารับฟังข้อชี้แจง และผมเองไม่ปรารถนาจะเป็นข่าวใหญ่โต จึงขอวอนผ่านสื่อด้วยการนำเอกสารชี้แจงเหล่านี้มาเผยแพร่แทน

ทั้งนี้ หญิง วลัยทิพย์ ยังบอกกับสื่ออีกว่าคดีนี้เป็นการฟ้ อ งร้องกันตั้งแต่ปี 2560 โดยเธอได้เดินทางมาศาลตลอด แต่ฝ่าย สามารถ ไม่เคยมาแม้แต่ครั้งเดียว มีเพียงส่งทนายมาเท่านั้น

ที่ผ่านมามีการนัดไกล่เกลี่ยกัน 3-4 ครั้ง แต่ไม่เป็นผล ถึงจะให้ผู้ใหญ่เข้าไปช่วยเจรจาก็ไม่เป็นผล เพราะ สามารถ พยัคฆ์อรุณ อ้างแต่ว่าไม่มีเงิน

ซึ่งในวันที่ 21 สิงหาคม 2562 ก่อนที่ หญิง วลัยทิพย์ จะเข้าไปยังห้องพิจารณาค ดี เจ้าตัวพร้อมทนายความ ธงวัช วราสุวรรณ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า

ตนจะได้เจอกับฝ่ายชายเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี เพราะศาลนัดให้มาสืบพยาน ตนไม่มั่นใจตัวเลขหนี้สินที่แน่ชัด

เพราะยังไม่ได้เช็คตัวเลขล่าสุด แต่เป็นหนี้สิ นที่กู้มาสร้างบ้าน 2 หลัง ย่านสายไหมและกู้มาทำค่ายมวยร่วมกัน ซึ่งการกู้หนี้เป็นชื่อร่วมกันตั้งแต่แรก และสร้างทุกอย่างมาด้วยกันตั้งแต่ยังเป็นพื้นดินเปล่า

หญิง วลัยทิพย์ ยังบอกอีกว่า คนเลิกกันแล้ว ก็ควรจะเคลียร์กันทุกอย่าง อย่างชื่อหนี้ที่กู้ร่วมกัน เพราะหย่ ากันแล้ว ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ชดใช้หนี้ จะทำให้เดือดร้อนทั้ง 2 ฝ่าย

ซึ่งตอนนี้ต่างฝ่ายต่างใช้หนี้กันคนละทาง และทางทนายของสามารถบอกแต่เพียงว่า สามารถ ไม่มีเงิน ให้เงินได้เพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น แล้วให้ไปแต่ตัว ตนมองว่ารักกันอยู่ด้วยกันสร้างทรัพย์สินด้วยกันมา

เลิกกันก็ควรจะได้สิ่งที่ควรจะได้ บ้าน 2 หลัง ในรั้วเดียวกันย่านสายไหมบนพื้นที่ 2 ไร่ ตนก็ขอแบ่งคนละหลัง ส่วนหนี้สินถ้าไม่มีเงินก็ขายค่ายมวยใช้หนี้ให้จบ ตนไม่ได้เรียกร้องอะไรมากกว่านี้

ตนพยายามจะเจรจามาตลอดระยะเวลา 2 ปี แต่โทรหาก็ไม่รับ อยู่บ้านในรั้วเดียวกัน คนละหลัง ก็ไม่มีโอกาสได้คุยกัน เพราะ “สามารถ” คอยหลบหน้าตลอด ด้านทนายธงวัช วราสุวรรณ เผยว่า วันนี้เป็นฟ้ องร้ องเพื่อให้แบ่งทรัพย์สินตามสิทธิ์

โดยหลังจากที่โจทก์ได้ฟ้องร้ องดำเนิ น ค ดี ทาง สามารถ พยัคฆ์อรุณ ได้ฟ้องกลับโจทก์เกี่ยวกับที่ดินจังหวัดขอนแก่น จำนวน 1 ไร่ ว่าให้แบ่งเป็นสินสมรส 30 % โดยทนายธงวัชแย้งว่าที่ดินนี้เป็นที่ดินส่วนตัวของคุณแม่โจทก์

ตนมองว่าเป็นลักษณะฟ้องซ้ อน ซึ่งต้องพิสูจน์กันที่ศาลต่อไป (ค ดีย่อยนี้คาดว่าจะตัดสินเสร็จเที่ยงวันนี้) ความรักพอมันเป็นแบบนี้แล้วรู้สึกยังไง มันต้องเ สี ยใจอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าหญิงข้ามจุดนั้นมาแล้ว

หญิงอยากให้พี่สามารถเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องไปฟังใครมาก ตอนเรารักกัน เราก็รักกันมา 10 ปี วันที่อยากได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้มา แต่วันที่จากลามาทำแบบนี้มันไม่ใช่ค่ะ มันต้องคุยกัน

เรียบเรียงโดย ทีมงาน มุมข่าวบันเทิง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ